เปิดโผ 7 หุ้นเด่น รับอานิสงส์ “น้ำท่วม-ฝนตกหนัก” ดันยอดขายพุ่ง

เปิดโผ 7 หุ้นค้าปลีกกลุ่มก่อสร้าง ได้แก่ HMPRO-COTTO-UMI-DRT-TOA-GLOBAL และ DOHOME รับอานิสงส์ “น้ำท่วม-ฝนตกหนัก” ลุ้นดันยอดขาย-รายได้ทะลักจากการซ่อมแซมทั้งบ้านเรือน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ฝนตกและปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

นอกจากนั้นจากการที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหลังโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสานที่ได้รับกระทบอย่างหนัก

โดยปัจจัยนี้จะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากเมื่อระดับน้ำลดลงแล้ว อาจมีการซ่อมแซมทั้งบ้านเรือน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย อาทิ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO, บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI, บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT, บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL และบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME

ทั้งนี้ หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีที่จะได้รับอานิสงส์ในช่วงที่ฝนตกและน้ำท่วม ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาจจะมีดีมานด์เร่งขึ้นในบางสินค้า จากการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฝนดังกล่าว จะได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์น้ำท่วมนี้ เนื่องจากกิจกรรมการซ่อมแซมตกแต่งที่อยู่อาศัยจะสูงขึ้น ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลซ่อมแซมบ้านหลังฤดูฝน ทำให้ดีมานด์ของสินค้าที่เกี่ยวกับการตกแต่งซ่อมแซมและการ renovate บ้านถูกเร่งขึ้น เป็นบวกมากต่อสาขาในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ HMPRO,GLOBAL,DOHOME ที่มีสาขาส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสานที่ได้รับผลกระทบเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นดังกล่าว ประเมินแนวโน้มไตรมาส 3/25666 และไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะมีการเติบโตแข็งแกร่งจากการเดินหน้าขยายสาขาใหม่ รวมถึงรัฐบาลกระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจ ส่งผลให้แนวโน้มกำไรและรายได้ออกมาเติบโตต่อเนื่อง ดังนี้

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2566 ของ HMPRO ยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าฝน และปัจจัยที่อาจส่งผลบวกต่อกำไรได้แก่นโยบายการลดค่าไฟและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ และคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตของยอดขายได้ โดยปัจจัยบวกได้แก่การท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้น รวมถึงค่าไฟที่ลดลง

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ของ DOHOME อยู่ที่ 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้ปัจจัยหนุนจาก SSSG ที่เป็นลบน้อยลงมาอยู่ที่ -6.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หลังราคาเหล็กในประเทศกลับสู่ระดับปกติ โดยมีแผนว่าจะเปิด 2 สาขาในเชียงรายและอยุธยา

ทั้งนี้ ยังมีมุมมองเชิงบวกสำหรับไตรมาส 4/2566 โดยมีสมมติฐานว่า 1) ราคาเหล็กจะยังทรงตัวหรือปรับขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน 2) SSSG ในไตรมาส 4/2566 จะเป็นบวกหลังเหตุน้ำท่วมในอุบลราชธานี เมื่อปีที่แล้ว และ 3) บริษัทฯ จะบันทึกรายการพิเศษจากการเรียกสินไหมทดแทนมูลค่า 60-65 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดว่า GLOBAL จะเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 6 ร้านในปีนี้ จากที่เปิดเพิ่มเพียง 2 สาขาในปีที่แล้ว เพราะสภาวะของการก่อสร้างดีขึ้น และคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 ร้านในปี 2567 เชื่อว่าการเร่งขยายสาขา และ SSSG ที่ดีขึ้นในปี 2567 อยู่ที่ 4% จะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 13% เป็น 3.5 พันล้านบาทในปี 2567

Back to top button