ลุ้นประชุม “โอเปกพลัส” 26 พ.ย.นี้ จับตาหุ้น “ได้-เสีย” ประโยชน์

ลุ้นประชุม “โอเปกพลัส” 26 พ.ย.นี้ คาดเป็นไปได้สูงคงแผนลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปในปี 67 พร้อมจับตาหุ้น "ได้-เสีย" ประโยชน์


บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์(12 ต.ค.66) ว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค.66 งานประชุม “Russian Energy Week” ในกรุงมอสโคว์ ประธานาธิบดีรัสเซียให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่ม OPEC+ มีความเป็นไปได้สูงที่จะยังคงแผนการลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปในปี 2567 โดยประธานาธิบดีรัสเซียได้กระตุ้นให้บริษัทน้ำมันให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศก่อน

โดยในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่ม OPEC+ ครั้งล่าสุดได้ลงมติที่จะคงนโยบายการผลิตน้ำมันเดิมของกลุ่มเอาไว้ต่อไปโดยทางซาอุดิอาระเบียจะยังคงลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยสมัครใจ(voluntary production cuts) ที่ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) จนถึงสิ้นปี ขณะที่รัสเซียจะยังคงลดการส่งออกน้ำมัน 0.3 แสนล้านบาร์เรลต่อวัน (mbd) ทั้งนี้ JMMC จะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 26 พ.ย.2566 (ที่มา: Reuters, Bloomberg)

อย่างไรก็ตาม DAOL มีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ โดยเชื่อว่า OPEC+ มีแนวโน้มที่จะคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ต่อจากปี 2566 อยู่แล้วเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเอาไว้ในขณะที่ภาพรวมอุปสงค์การใช้น้ำมันทั่วโลกยังไม่ฟื้นตัวดี โดยเมื่อวันวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ลดลง 2.1% เป็น 85.8 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ 80.0 เหรียญ/บาร์เรล และคงมุมมองว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นในครึ่งหลังปี 66 หนุนด้วยแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC+ อีกทั้งยังคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มพลังงาน

โดยปัจจุบันกลับมาชอบหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยืนสูงได้ในไตรมาส 4/66 ในขณะที่กลุ่มโรงกลั่นมีแนวโน้มจะเห็นกำไรอ่อนตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 4/66 ตามแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคานน้ำมันดิบ (crack spread) โดยให้คำแนะนำ PTTEP ซื้อ ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์(12 ต.ค.66) ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่อเป็นวันที่ 2  อิงน้ำมันดิบเบรนต์ ลดลง2.09% เทียบวันก่อนหน้า ปิดที่  85.82 เหรียญ/บาร์เรล ส่วน West Texas ลดลง 2.88% เทียบวันก่อนหน้าปิดที่ 83.49 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากตลาดมองภาวะสงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาสความรุนแรงลดลง หลังซาอุดิอาระเบียออกมาอาสาจะป้องกันการขยายวงกว้าง อีกทั้งรัฐบาลเยอรมนีคาด GDP ปี 2566 จะหดตัว 0.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ลงเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ PTT, PTTEP กลุ่มที่ได้จิตวิทยาบวก อาทิ สายการบินเน้น AAV กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เน้น SCC, EPG เครื่องดื่มเน้น ICHI ค้าปลีก เน้น CPALL, CPAXT ระยะสั้นติดตามราคาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวตามเหตุการณ์สำคัญ อาทิ ติดตามการประชุมใหญ่ OPEC+ ในวันที่ 26 พ.ย.66 มีโอกาสเห็นการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม

Back to top button