“แบงก์ชาติอินโดฯ” ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 6% สกัดเงินเฟ้อ

“ธนาคารกลางอินโดนีเซีย” มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 6% เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ


วันนี้(19 ตุลาคม 2566) สำนักข่าว The Business Times รายงานว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่คาดคิดในการประชุมวันนี้ เพื่อทำให้สกุลเงินรูเปียห์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน ท่ามกลางแรงกดดันทางการเงินของสหรัฐที่ตึงตัว และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น

โดยธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วัน 0.25% สู่ระดับ 6% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 ในปี 2566 และเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่เริ่มวงจรที่เข้มงวดขึ้นในปี 2565

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สกุลเงินรูเปียห์เผชิญกับแรงกดดันครั้งใหม่ โดยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเงินในประเทศที่พัฒนาแล้วและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

เพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารอินโดนีเซีย กล่าวว่า การปรับขึ้นนี้เป็นมาตรการล่วงหน้าและเป็นการมองไปข้างหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า จุดอ่อนของรูเปียห์กำลังขัดขวาง BI จากการลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือนในเดือนกันยายน ใกล้กับจุดต่ำสุดของ BI ที่ 2%-4% ต่อ ช่วงเป้าหมายปี 2566 โดย BI จะลดช่วงเป้าหมายลงเหลือ 1.5% เหลือ 3.5% ในปี 2567

Back to top button