SCC ปรับ 3 กลยุทธ์ลงทุน รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

SCC เผยแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 4/66 ไม่แน่นอน หวั่นสงครามตะวันออกกลางหนุนต้นทุนพลังงานสูงกระทบธุรกิจ เดินหน้าปรับ 3 กลยุทธ์ลงทุน รัดเข็มขัด-ทบทวนแผนงาน-รุกนวัตกรรม Green ดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง


นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากภาวะสงครามในตะวันออกกลางที่ยังดำเนินอยู่อาจเป็นตัวเร่งให้ราคาพลังงานปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท

ด้านเศรษฐกิจอาเซียนมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่จะมีการลงทุนและการบริโภคเพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างเมืองหลวงใหม่ คือ นูชันตารา ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการค้าเมืองท่องเที่ยว ซึ่งได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลอาจปรับตัวลง ทำให้ควบคุมต้นทุนพลังงานได้ดีขึ้น

ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง จากต้นทุนพลังงานผันผวน ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูง ตลาดจีนชะลอตัว ธุรกิจปิโตรเคมียังไม่ฟื้นตัวดี ผนวกกับการขึ้นอัตราดอดเบี้ย เงินเฟ้อสูง ตลอดจนความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังดำเนินอยู่ บริษัทจึงเร่งเดินหน้า 3 กลยุทธ์เข้มข้นขึ้นเพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องดังนี้

รัดเข็มขัด ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม มุ่งลดต้นทุนพลังงาน เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดแทนการใช้พลังงานฟอสซิลซึ่งราคาผันผวน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันมีการใช้ 220 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงชีวมวลในโรงงานปูนซีเมนต์ในไทย มีสัดส่วนการใช้ 40% พร้อมทั้งเร่งหาแหล่งพลังงานสะอาดอื่น ๆ อาทิ ปลูกหญ้าเนเปียร์ พืชให้พลังงานสูง 1,000 ไร่ ที่สระบุรีแซนด์บ็อกซ์เมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย มุ่งเป้าปลูก 30,000 ไร่ในปี 2571

ทบทวนแผนงาน ชะลอโครงการที่ไม่เร่งด่วน เน้นลงทุนธุรกิจเติบโตสูง อาทิ ร่วมมือกับ Denka ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ลงทุนร่วมกับ Braskem ในอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และลองเชินปีโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมทดสอบเครื่องจักร เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงขยายสู่ตลาดโลก

รุกนวัตกรรม Green ที่มีความต้องการสูงตอบเมกะเทรนต์โลก โดยสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม SCG Green Choice เดิบโตโดดเด่น 9 เดือนของปี ซึ่งมียอดขาย 54% จากการขายสินค้าทั้งหมด พร้อมเดินหน้าเต็มที่เพิ่มยอดขายให้ได้ 2 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมดในปี 2573 ขณะที่ SCG Cleanergy ธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจร ให้บริการระบบเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) กับเครือเซ็นทารา พัฒนาเป็น Smart Hotel ควบคู่กับการเร่งส่งออกปูนคาร์บอนต่ำ และผลักดันนวัตกรรมกรีนอื่นๆ อาทิ พลาสติกรักษ์โลก และธุรกิจรีไซเคิล

Back to top button