WHAUP เคาะจ่ายปันผล 0.060 บาท ขึ้น XD 22 พ.ย.นี้

บอร์ด WHAUP อนุมัติปันผลหุ้นละ 0.060 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 22 พ.ย. นี้ เตรียมจ่าย 4 ธ.ค. 66 พร้อมเดินหน้าการลงทุนในธุรกิจน้ำ-ไฟฟ้าพลังงานสะอาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ


นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดปี 2566  ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.060 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลวันที่ 4 ธันวาคม 2566

โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงินและความมั่นคงของกระแสเงินสดที่สะท้อนถึงความสามารถในการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3/2566 บริษัทรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 1,191 ล้านบาท และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) 475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72 % และ 426 % ตามลำดับ

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,844% จากปีก่อน สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ จำนวน 3,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% และมีกำไรปกติ จำนวน 1,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ จำนวน 1,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 304% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรปกติมาจากส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่า Ft ได้ปรับขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ทำให้อัตรากำไรในส่วนของธุรกิจไฟฟ้า SPP ที่จำหน่ายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมฟื้นตัว ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำทั้งในประเทศและเวียดนามยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันในไตรมาส 3/2566 ภาพรวมธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) โตจากปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารน้ำทั้งในและต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกปี 2566 มียอดจำหน่ายและบริหารน้ำรวมเท่ากับ 117 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายน้ำในประเทศมีปัจจัยหลักมาจากปริมาณยอดขายน้ำดิบ (Raw Water) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้น้ำของลูกค้ากลุ่มพลังงาน

ขณะที่การจำหน่ายน้ำในประเทศเวียดนามโดยเฉพาะจากโครงการ Duong River ยังคงมีการเติบโตเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องและบริษัทคาดว่ายอดจำหน่ายน้ำในเวียดนามจะเติบโตเพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกค้าที่ทยอยเปิดดำเนินการในเขตอุตสาหกรรม WHAUP โซน เหงะอาน เฟส 1 และแผนการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคควบคู่ไปกับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของ WHA ในประเทศเวียดนาม

ทั้งนี้ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2565 ในขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP เนื่องจากค่า Ft ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ทำให้ในส่วนของการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกันส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน GHECO-One ในไตรมาส 3/2566 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและโรงไฟฟ้าถ่านหิน GHECO-One มีการหยุดซ่อมบำรุงทำให้ได้รับค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าที่ลดลง ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในไตรมาส 3/2566 รับรู้รายได้ทั้งสิ้น 108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์

โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 บริษัทมีกำลังการผลิตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 106  เมกะวัตต์ และมีจำนวนสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการ Private PPA จากพลังงานแสงอาทิตย์สะสมแล้ว จำนวน 179 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 730 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมกับ บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อติดตั้งโซล่าร์ แบบลอยน้ำ (Solar Floating) โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 8 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ติดตั้ง 60,000 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์น ซีบอร์ด (ระยอง) ของ WHA ซึ่งคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในเดือนกันยายน 2567

Back to top button