ก.ล.ต.เชือดอดีตกรรมการ TOPLINE พร้อมพวกรวม 6 ราย ฐานทุจริตขายห้องชุด “เดอะ โคลเวอร์ฯ”

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการ TOPLINE บริษัทย่อยของ POLAR และพวกรวม 6 ราย ข้อหาร่วมกันกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริตผ่านธุรกรรมซื้อขายห้องชุดโครงการ “เดอะ โคลเวอร์ ภูเก็ต” ทำให้ TOPLINE ได้รับความเสียหายรวม 88 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจสอบพบพยานหลักฐานว่า ในช่วงปี 2560 – 2561 อดีตกรรมการบริษัท ท็อปไลน์ ลิฟวิ่ง จำกัด หรือ TOPLINE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โพลาริส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR จำนวน 2 ราย ได้แก่ (1) นางสาวอรนัญช์ บุญมา (2) นายนุกูล เพ็งคำ ทำธุรกรรมขายห้องชุด โครงการเดอะ โคลเวอร์ ภูเก็ต ให้แก่พวกทั้ง 4 ราย ได้แก่ (3) นายธัญพงศ์ ลิ้มวงศ์ยุติ (4) นายอัครเดช วัฒนะ (5) นางสาววัชรวีร์ ก้องไกรจิรกิตติ์ (เดิมชื่อนางสาวพรรณนิภา นันทอุดมเจริญ) และ (6) บริษัท ปริ๊นซ์ แกรนด์ จำกัด ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทำให้ทั้ง 4 รายดังกล่าว ได้รับประโยชน์จากการนำห้องชุดไปขายให้แก่บุคคลภายนอกได้ในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อมาจากบริษัท TOPLINE อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้ TOPLINE เสียหายรวมมูลค่าประมาณ 88 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบว่า นางสาวอรนัญช์ ได้กระทำการทุจริตผ่องถ่ายเงินของ TOPLINE ออกจากบริษัทเป็นอีกกรณีหนึ่งด้วย

การกระทำของอดีตกรรมการ TOPLINE กับพวกรวม 6 รายข้างต้น เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) และมาตรา 83 หรือมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แล้วแต่กรณี ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลและนิติบุคคล

รวมทั้ง 6 ราย ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ยังได้แจ้งการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ข้างต้นต่อ ปปง. ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

อนึ่ง  การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อไป และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว

Back to top button