“เคจีไอ” มอง SET ม.ค.ฟื้นตัว คัด 8 หุ้นน่าเก็บเข้าพอร์ต

“เคจีไอ” มองตลาดหุ้นไทยช่วงต้นปี 67 มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง พร้อมแนะนำ 8 หุ้นเด่นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว CPN, HMPRO, DELTA, SAWAD, GFPT, TU, AMATA และ WHA


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ม.ค.67) ว่า ในเดือน ธ.ค. 66 ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามมุมมองรายเดือน โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้

1.มีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นว่าแนวโน้มดอกเบี้ยโลกในปี 67 จะเป็นขาลง จากการแสดงความเห็นของผู้บริหารธนาคารกลางหลัก ๆ รวมถึงความเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์หลายรายว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปีหน้า

2.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอ่อนค่าลงไปอีก ซึ่งส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย และทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกรอบ

ทั้งนี้ ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ แรงซื้อจากสถาบันในประเทศกลับมาแข็งแกร่งขึ้นในเดือนธ.ค. จากการออกกองทุน TESG ที่ให้สิทธิ์ในการหักภาษี และการทำ window dressing ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 66 เนื่องจากตลาดหุ้นไทยในปีที่แล้วค่อนข้างตกต่ำ พอร์ตหุ้นของเคจีไอในเดือนธ.ค.ขยับขึ้นมา 3.9% ซึ่ง outperform ดัชนี SET ซึ่งปิดบวก 2.6%

อย่างไรก็ตาม ในรอบปี 66 ผลการดำเนินงานของพอร์ตหุ้นยังไม่ค่อยดี โดยปรับตัวลดลงถึง 22.3% ในขณะที่ตลาดหุ้นโดยรวมตกลงมาเพียง 15.2%

สำหรับมุมมองตลาดหุ้น ม.ค. 67 น่าจะมีแรงส่งให้ขึ้นต่อในช่วงต้นปี จากปัจจัยหนุนฝั่งต่างประเทศ ในเดือนม.ค.มองว่ามีปัจจัยบวกสองสามประการที่จะช่วยหนุนให้ดัชนี SET และคาดว่าตลาดน่าจะขยับขึ้นต่อได้อีกพอสมควร ประการที่หนึ่งคาดว่าจะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติเข้ามาในตลาดหุ้น ท่ามกลางสภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดโลก และดัชนี US Dollar Index ลดลง จากความคาดหมายว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในปีนี้

ประการที่สอง ถึงแม้จะมองว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะกดอัพไซด์ของตลาดหุ้นในไตรมาส 1/67 เอาไว้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงต้นปี 67 อาจจะยังอยู่ในระดับที่แข็งแรง และทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวแบบ soft-landing

ประการที่สาม โมเมนตัมของการบริโภคภาคเอกชนในประเทศไทยน่าจะแข็งแกร่งขึ้น จากมาตรการ e-Refund ซึ่งจะมีผลระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.67

ทั้งนี้ ความเสี่ยงหลักต่อมุมมองบวกในเดือนม.ค.ได้แก่

1.ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐพลิกผันอย่าง รุนแรงจนทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเฉียบพลัน

2.ผู้บริหารเฟดออกมาแสดงความเห็นว่า การลดดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่นักลงทุนคาดหวังเอาไว้ ว่าจะเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 67

ด้านหุ้นแนะนำ ม.ค. 67 ได้แก่ CPN, HMPRO, DELTA, SAWAD, GFPT, TU, AMATA และ WHA เนื่องจากมองว่าตลาดหุ้นน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง แต่น่าจะมีอัพไซด์จำกัด จึงยังคงเกาะอยู่กับหุ้นในธีมเดิม เช่น

1.หุ้นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากมาตรการ e-Refund

2.หุ้นเทคโนโลยีบาง ตัวที่จะได้อานิสงส์จากการกลับมาตุนสต็อก (restocking) ทั่วโลก

3.หุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงไปอีก

4.หุ้นกลุ่มอาหารที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

5.หุ้นนิคมอุตสาหกรรมที่โมเมนตัมยอดขายที่ดินแข็งแกร่งในไตรมาส 4/66

Back to top button