SCB รายได้ดอกเบี้ยพุ่ง-คุมต้นทุนเยี่ยม ดันกำไรปี 66 โต 16% แตะ 4.35 หมื่นล้าน

SCB โชว์กำไรปี 66 โต 16% แตะ 4.35 หมื่นล้านบาท รับรายได้ดอกเบี้ยโต 16% อานสิงส์รายได้จากการลงทุนเพิ่มและการควบคุมต้นทุนได้อย่างเข้มงวด ตั้งเป้าปี 67 ลุยลงทุนด้านเทคโนโลยีต่อเนื่อง


บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ดังนี้

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 43,521.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 37,546.01 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 124,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 107,865 ล้านบาท จากการปรับตัวดีขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 0.44% และการเติบโตของสินเชื่อ 2.1% ประกอบกับรายได้จากการลงทุน และการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด

โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 43,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% จากปีช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงถึงการบริหารคุณภาพสินเชื่ออย่างรอบคอบ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยที่ไม่ทั่วถึง และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 160% เท่ากันกับปีที่แล้ว

ด้านคุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 3.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.3% ในปีก่อน ส่วนเงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.8% และมีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ระดับ 9.3%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB กล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด ภายใต้การฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ทั่วถึง ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง ตลอดจนความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทฯ เติบโตสินเชื่อผู้บริโภคแบบไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นในอัตรา 24% จากปีก่อน โดยมียอดสินเชื่อคงค้างในส่วนนี้จำนวนกว่า 165,000 ล้านบาท เป็นการตอบรับแนวนโยบายภาครัฐเรื่องการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับผู้มีรายได้น้อย (financial inclusion) ของประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ให้ผลตอบแทนมั่นคง ผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างทั่วถึง ภายใต้สภาวะตลาดทุนที่มีความผันผวนสูง

สำหรับกลยุทธ์ในระยะต่อไป บริษัทฯ จะเน้นการเติบโตธุรกิจจากการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ และบริหารต้นทุนให้เหมาะสม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน เพื่อเป็นตัวจักรสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ ขยายการบริการลูกค้าอย่างทั่วถึง และสร้างมูลค่าผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างประสิทธิภาพของกลุ่มและยกระดับ 1) การเติบโต: ขับเคลื่อนธุรกิจและการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม  2) ปรับเปลี่ยนไปสู่โมเดลที่มุ่งเน้นผลกำไรสำหรับ Gen 3: รูปแบบธุรกิจที่ใช้เงินจำนวนมาก คือแพลดฟอร์ม Robinhood โดยบริษัทวางแผนที่จะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของ Robinhood ไปสู่รูปแบบธุรกิจที่มุ่งเน้นผลกำไร โดยเงินอุดหนุนจะค่อยๆ ลดลงอย่างมีนัยะ และ 3) ลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

Back to top button