AHC โชว์รายได้ปี 66 แตะ 1.8 พันล้าน เคาะปันผล 0.63 บาท ขึ้น XD 2 พ.ค.นี้

AHC โชว์ผลงานปี 66 โกยรายได้ 1,829 ล้านบาท กำไร 189 ล้านบาท เคาะปันผล 0.63 บาท กำหนดขึ้น XD 2 พ.ค.นี้ มั่นใจทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/67 แนวโน้มสดใส หลังร่วมงานพันธมิตรในต่างประเทศ พร้อมขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัย


นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด (มหาชน) หรือ AHC โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกใน จ.ชลบุรี ให้บริการสุขภาพทั้ง 4 ด้านครบวงจร ได้แก่ บริการตรวจรักษาโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรค และส่งเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่าผลประกอบการปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,829.16 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,988.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 188.76 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 271.05 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทเมื่อเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด เริ่มกลับมาอยู่ในระดับปกติ โดยในปี 2566 โรงพยาบาลมีการปิดปรับปรุงหอพักผู้ป่วยใน, ห้องผ่าตัด (OR) และห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3/2566 เป็นช่วงฤดูกาลระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่, โรค RSV และโรคไข้เลือดออก ส่งผลให้ไม่สามารถรับรองจำนวนผู้ป่วยได้เต็มอัตราแม้จะมีปริมาณผู้ป่วยในที่เข้ามาใช้บริการเพิ่ม อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลยังมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น จากการให้บริการตรวจรักษาปกติทั้ง IPD (In-Patient Department) หรือ “ผู้ป่วยใน” และ OPD (Out-Patient Department) หรือ “ผู้ป่วยนอก” โดยมีอัตราครองเตียงอยู่ที่ประมาณ 90%

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.63 บาทต่อหุ้น รวมเป็นปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 94 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ที่ 50% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย

อีกทั้งได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 2 พ.ค. 2567 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 3  พ.ค. 67 พร้อมกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 20 พ.ค. 67 โดยมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 วันที่ 23 เม.ย. 67 เพื่อพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ดีทิศทางธุรกิจในไตรมาส 1/2567 มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น โดยนอกจากการให้บริการตรวจสุขภาพ และดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วไปแล้ว บริษัทเริ่มดำเนินงานนวัตกรรมดูแลด้านความงามแบบครบวงจร (Wellness & Plastic surgery) ร่วมกับพันธมิตรโรงพยาบาลศัลยกรรม Id Hospital ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการใช้บริการในแผนกอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังเริ่มเปิดให้บริการห้องผ่าตัด (OR) และห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ที่ปิดปรับปรุงในช่วงปีที่แล้ว อีกทั้ง อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพและรักษาโรคเฉพาะทางอื่นๆ เพิ่ม เพื่อขยายฐานครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัย

Back to top button