บอร์ด NER ไฟเขียวปันผล 0.29 บ. ขึ้น XD 22 เม.ย.นี้! หลังปี 66 กำไร 1.5 พันล้านบาท

NER เปิดงบปี 66 กำไรสุทธิ 1.5 พันล้านบาท ด้านบอร์ด NER ไฟเขียวปันผล 0.29 บ. ขึ้นเครื่องหมาย XD 22 เม.ย.นี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พ.ค. 67


บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER รายงานผลการดำเนินงานปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566) มีกำไรสุทธิ ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,545.60 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,748.10 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานปี 66 เทียบกับปี 2565 มีปริมาณขาย 497,053 ตัน เพิ่มขึ้น 50,963 ตัน หรือร้อยละ11.42 คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 25,045.17 ล้านบาท ลดลง 126.89 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 0.50 แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 16,259.49 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 64.92 ของยอดขายรวมลดลง 442.66 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 2.65 รายได้จากการขายต่างประเทศ 8,785.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.08 ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 315.77 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.73

ขณะที่รายได้จากการขายปี 2566 ที่ลดลงเกิดจากสถานการณ์ราคายางที่ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับปี 2565 ราคาขายสินค้ายางเฉลี่ยในปี 2566 ลดลงร้อยละ 10.71 โดยรายได้ที่ลดลง แบ่งเป็นผลต่างด้านด้านราคาที่ปรับตัวลดลง อยู่ที่3,003.90 ล้านบาท และแบ่งเป็นผลต่างด้านปริมาณสูงขึ้นอยู่ที่ 2,875.43 ล้านบาท

ส่วนในปี 2566 บริษัทฯ มีต้นทุนขาย 22,231.93 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 88.77 ของรายได้จากการขาย โดยแบ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบและวัสดุสิ้นเปลืองใช้ไป 21,410.11 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85.49 ของรายได้จากการขาย เมื่อเทียบกับปี 2565 ต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.91 โดยต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจากความผันผวนของราคายางในปี2566 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบยางเมื่อเทียบกับรายได้มีต้นทุนที่สูงขึ้น โดยพิจารณาจากข้อมูลการซื้อยางและราคาขายยางเฉลี่ยของบริษัทฯ

โดยต้นทุนค่าแรงงานปี 2566 เท่ากับ 177.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.71 เมื่อเทียบกับปี2565 มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 22.43 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.09 ของรายได้จากการขาย เกิดจากการจ่ายค่าแรงตามปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้น

อีกทั้งค่าใช้จ่ายผลิต 460.59 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.84 ของรายได้จากการขาย เมื่อเทียบกับปี2565 มีต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้น 94.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.38 เกิดจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนผลิตในค่าก๊าซLPG. ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้าเป็นการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่สัมพันธ์กับปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.29 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวัน 22 เมษายน 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2567

Back to top button