TQM กวาดรายได้ปี 66 “นิวไฮ” 3.8 พันล้าน เคาะปันผล 0.50 บาท ขึ้น XD 12 มี.ค.นี้

TQM กวาดรายได้ปี 66 “นิวไฮ” แตะ 3,756 ล้านบาท อนุมัติปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 12 มี.ค.นี้ ตั้งเป้าปี 67 ยอดเบี้ยประกัน 22,000 ล้านบาท พร้อม ชูกลยุทธ์ “One Customer Multiple Products” เสริมเทคโนโลยี ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างรายได้นิวไฮต่อเนื่องในทุกปี


บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM รายงานผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวม 3,756.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 859.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 22.9% ซึ่งรายได้จากการให้บริการเติบโตต่อเนื่อง มาจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกัน ทั้งประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ด้วยทีมขายที่มีการเสริมศักยภาพโดยการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้นพร้อมเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.50 บาท ต่อหุ้น เป็นเงินรวม 300 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 และกำไรเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 12 มี.ค. 2567 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10 พ.ค. 2567

 ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยว่า นับจากวันที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทได้สร้างรายได้นิวไฮได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน การส่งเสริมศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจบริษัทประกันและบริษัทในเครือ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ทั้งในความคุ้มครองและราคาของผลิตภัณฑ์ประกันที่สามารถแข่งขันได้

โดยในปี 2567 ตั้งเป้ายอดเบี้ยประกัน 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,000 ล้านบาท รวมไปถึงบริการที่เกี่ยวเนื่อง เช่น บริการด้านสินเชื่อเพื่อซื้อประกันซึ่งเติบโตได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งพัฒนาทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ให้เติบโตไปด้วยกัน สร้างความเชื่อมโยงและเกื้อหนุนกัน มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมศักยภาพในกระบวนการทำงาน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยในปีนี้มีแผนการใช้ AI ในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตขององค์กรและพัฒนาเป็น InsurTech อย่างเต็มตัว ด้านกลุ่มธุรกิจการเงิน ในปี 2566 ได้มีการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อประกันให้แก่ลูกค้ากว่า 1,800 ล้านบาท โตขึ้น 100%

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM กล่าวว่า สำหรับปี 2567 คาดการณ์ว่าตลาดประกันมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งยอดจำหน่ายรถยนต์ในปีที่ผ่านมาก็เพิ่มขึ้น ความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มียอดจดทะเบียนใหม่ปี 2566 จำนวน 75,707 คัน ส่งผลให้ประกันรถ EV เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า ซึ่งประกันรถ EV มีเบี้ยประกันสูงกว่ารถสันดาปค่อนข้างมากเมื่อเทียบในทุนประกันเท่ากัน โดยบริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรบริษัทประกัน 8 บริษัท และจะเพิ่มเป็น 15 บริษัทภายในปีนี้ เพื่อนำเสนอประกันที่ตรงตามความต้องการลูกค้า โดยปีที่ผ่านมา TQM มียอดขายประกันรถ EV กว่า 4,200 คัน

อย่างไรก็ดี TQM ยังเดินหน้าต่อด้วยกลยุทธ์ “One Customer Multiple Products” เพิ่มโอกาสในการขายโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแง่มุมต่างๆ อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริการลูกค้า เช่น การสร้าง Customer Data Platform เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์สำหรับการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร ช่วยในการวิเคราะห์เพื่อนำเสนอบริการหลากหลายจากบริษัทในเครือสร้างความสะดวกสบายตลอด journey ของลูกค้า เช่น การเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสม การชำระเงิน ตลอดจนบริการหลังการขาย

ทั้งนี้ยังมุ่งเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ต้องการเลือกซื้อ ตัดสินใจ และชำระเงินเองในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยในปี TQM จะพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ให้เลือกซื้อง่ายขึ้น ชำระเงินง่ายขึ้น และรับบริการง่ายขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยปัจจุบัน TQM มีทั้ง เว็บไซต์ www.tqm.co.th  แอปพลิเคชัน TQM24 รวมถึง ทีมงาน chat center และ call center ที่พร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

X
Back to top button