DSI จับกุม “กรินทร์” ฐานนำเข้า “ชิ้นส่วนไก่” ผิดกฎหมาย คาสนามบิน

DSI บุกจับกุม “กรินทร์” คาสนามบินหลังกลับจากต่างประเทศ เหตุนำเข้าชิ้นส่วนไก่และตีนไก่สำแดงเท็จ เลี่ยงการเสียภาษีอากร


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (26 มี.ค. 67) เวลาประมาณ 7:35 น. นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว และเจ้าหน้าที่สืบสวนชุดปฏิบัติการที่ 4 ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ร่วมกันจับกุม นายกรินทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 113/2567 ลงวันที่ 9 ม.ค. 2567 คดีพิเศษที่ 127/2566 กระทำความผิดนำเข้าชิ้นส่วนไก่ และตีนไก่สำแดงเท็จ โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคประสานการปฏิบัติกับศูนย์สืบสวนสะกดรอบและการข่าว เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 127/2566 ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วหลายรายและยังคงมีผู้ต้องหาที่เหลืออีกบางรายที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม ซึ่งนายกรินทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ร่วมกับ นายหลี่ หรือ เฮียเก้า กับพวกรวม 5 คนในระหว่างปี 2564 ถึงปี 2566 ได้ร่วมกัน นำเข้า ชิ้นส่วนไก่และตีนไก่แต่สำแดงเป็นปลา แผ่นโพลิเมอร์ของโพรพิลีนใช้ในอุตสาหกรรมห้องเย็น ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่ต้องชำระภาษีอากรแล้วนำไปผลิตบรรจุใหม่เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน

ต่อมาได้ส่งออกชิ้นส่วนไก่และตีนไก่ดังกล่าวไปยังประเทศจีน ซึ่งหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรซึ่งเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งชิ้นส่วนไก่และตีนไก่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายโอน และรับโอนเงินจ่ายค่าชิ้นส่วนไก่และตีนไก่ผ่านบัญชีบุคคลอื่นซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร อีกทั้งเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ หลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามเกี่ยวกับของนั้น ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักร

ทั้งนี้ สัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ฐานฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542ฐานเป็นอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญาโดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณโถงอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศท่าอากาศยานดอนเมือง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว รวมทั้งได้แจ้งไปยังพนักงานอัยการและสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครองกรณีในเขตกรุงเทพมหานคร และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว และควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Back to top button