“ดาวโจนส์” ปิดบวก 4 จุด ฟาก “แนสแด็ก” แรลลี่ยาว 5 สัปดาห์ติด

“ดาวโจนส์” ปิดบวก 4 จุด หลังร่วงหนักวันพฤหัสบดี ฟากดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน


ผู้สื่อข่าวรายว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (24 พ.ค.67) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี และได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ ซึ่งช่วยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,069.59 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,304.72 จุด เพิ่มขึ้น 36.88 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,920.80 จุด เพิ่มขึ้น 184.77 จุด หรือ +1.10%

แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.34% หลังปรับตัวขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน และปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ดัชนี S&P ปรับตัวขึ้น 0.03% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.41%

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อใหม่สำหรับสินค้าทุนที่ผลิตโดยสหรัฐดีดตัวขึ้นมากเกินคาดในเดือนเม.ย. ขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคดีขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค. หลังจากคาดการณ์ย่ำแย่ในช่วงต้นเดือน

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลง 8.1 สู่ระดับ 69.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 67.4 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 76.0 จากระดับ 77.2 ในเดือนเม.ย. ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ลดลงจากการสำรวจก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.5%

นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.0% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ลดลงจากการสำรวจก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.1%

โดยปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นไปอย่างซบเซาก่อนวันเมโมเรียล เดย์ (Memorial Day) ในวันจันทร์ (27 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุดของตลาดหุ้นสหรัฐ

ด้านหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร เพิ่มขึ้น 1.29% โดยเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสาธารณูปโภคต่างปรับตัวขึ้นราว 1%

เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดปรับตัวรับโอกาส 49.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ลดลงจาก 54.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่โกลด์แมน แซคส์เลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดจากเดือนก.ค.ไปเป็นเดือนก.ย.

ส่วนหุ้นขนาดเล็กที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยดีดตัวขึ้น โดยดัชนี Russell 2000 เพิ่มขึ้น 1.4% หลังร่วง 1.6% ในวันพฤหัสบดี

ขณะที่หุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้นราว 2.6% โดยยังคงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งหนุนราคาหุ้นพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก

Back to top button