CGSI มองกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,190-1,210 จุด ชู GULF-MOSHI เด่น

“บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล” ประเมิน SET สัปดาห์นี้ Sideway to Sideway up ในกรอบบริเวณ 1,190-1,210 จุดพร้อมชู 2 หุ้นเด่น GULF-MOSHI รับปัจจัยบวกเฉพาะตัว


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.21%, S&P500 เพิ่มขึ้น 0.63% และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.52% ขานรับผลประกอบการแข็งแกร่งมากกว่าที่ตลาดคาด สำหรับกลุ่ม Magnificent 7 อย่าง Microsoft (ธุรกิจ Cloude-Azure) และ Meta (ประกาศเพิ่มงบลงทุนเพื่อเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลรองรับ AI)

โดย กลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยชดเชยตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังจาก สหรัฐฯ รายงานการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) 62k น้อยกว่าตลาดคาดที่ 114k (เดือนก่อน 147k) และ GDP สำหรับไตรมาส 1/68 ลดลง 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้าต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า (คืนวันพุธที่ผ่านมา)

สำหรับสัญญาทองคำ (COMEX) ลดลงอยู่ที่ US$3,222.2/oz หลังสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันนักลงทุนรอจับตาตัวเลขจ้างนอกภาคเกษตร เดือน เม.ย. ตลาดคาด 138k (เดือนก่อน 228k) (วันนี้)

ด้านสัญญาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดบวกที่ US$59.24/bbl หลังจาก Donald Trump ขู่จะคว่ำบาตรอิหร่าน ภายหลังจากเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน (รอบที่ 4) ถูกเลื่อนออกไป และกล่าวว่าการซื้อน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากอิหร่านทั้งหมดจะต้องยุติ

ทั้งนี้ คาดว่า SET Index ยังคงเคลื่อนไหว Sideway to Sideway up ในกรอบบริเวณ 1,190-1,210 จุด ลุ้นทดสอบ 1,200 จุด จากแรงหนุนกลุ่ม Big Cap ในระยะสั้น เนื่องจาก

1) การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากธปท. 0.25% ลงมาอยู่ที่ 1.75% ตามตลาด (วันพุธที่ผ่านมา)

2) แรงหนุน ThaiESGX พร้อมเสนอขายพร้อมกันวันที่ 2 พ.ค.68 และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป ThaiESGX (13 พ.ค.) เพื่อรอการเจรจาการค้าหลายประเทศเพิ่มเติม

3) SET index รับรู้ความกังวลสงครามการค้าไปมากพอสมควร โดยตลาดยังคงรอผลการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน

ดังนั้นทางฝ่ายวิจัย จึงแนะนำการ trading สำหรับการรีบาวด์ของ SET index

ทั้งนี้ ธปท. ได้มีการปรับประมาณการ GDP สำหรับปี 2568 ลดลงเป็น 2.0% และในปี 2569 ลดลงเป็น 1.8% โดยเห็นนโยบายภาษีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปี 2568

ในขณะที่ทาง Moody ปรับ Credit rating ประเทศไทย จาก “Stable” สู่ “Negative” เนื่องจากกังวลภาษี Donald Trump เช่นกัน และความกังวลเสถียรภาพการคลังในระยะกลาง-ยาว นอกจากนี้ Moody ยังคงปรับ Outlook ธนาคารแห่งไทย 7 แห่ง (BBL, EXIMT, KBANK, KTB, SCB, SCBX, TTB) จาก “Stable” เป็น “Negative”

สำหรับปัจจัยหุ้นในประเทศ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 1,099 ล้านบาท มากกว่าเราและ Consensus คาดที่ 5%/30% จากซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม คาดว่า PE/PP spread จะอ่อนแอในครึ่งหลังของปี 2568 จากการเริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิตในเอเชีย

ในขณะที่ MINT กล่าวว่าโรงแรมมี RevPAR เติบโตในเลขหลักเดียว ในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 3% RevPAR ในไตรมาส 4/67) และยังอยู่ในขั้นตอนการประเมินผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

สำหรับหุ้นแนะนำ ดังนี้

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

หุ้น Defensive และเป็นผู้นำในกลุ่มโรงไฟฟ้า และจะได้รับความสนใจจากกองทุน ThaiESGX ทั้งนี้ กกพ. ปรับลดค่าไฟเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย งวด พ.ค.-ส.ค. 2025 ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ครม. อนุมติเล็กน้อยเพียง 3.99 เรายังคงประมาณการกำไรปกติหลัก 18% สำหรับ 2025-2027F หลังการควบรวมกิจการ (Take profit: 51.25 / Stop loss: 47.00)

บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI

ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิแข็งแกร่ง 150 ล้านในไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน) ได้แรงหนุนจากอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้น 7.6% และมาร์จิ้นที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และคาดว่ายังมีกำไรสุทธิแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 2/2568 โดยมี SSSG เติบโตในเลขสองหลักในช่วงต้นเดือน เม.ย. (Take profit: 48.00 / Stop loss: 39.25)

Back to top button