กกต. เรียกสอบ 60 ส.ว.ดัง พรุ่งนี้! จ่อแจ้งข้อหา “ฮั้วเลือกตั้ง”

กกต. เตรียมเรียกสอบ 60 สว.ดัง 8 พ.ค.นี้ หลังดีเอสไอ เดินหน้าเก็บหลักฐานเข้ม พบเงินสะพัดกว่า 500 ล้าน เชื่อมโยงพฤติกรรมทุจริตเลือกระดับอำเภอ จังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (7 พ.ค.68) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าในการสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

โดยหลังจากที่ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษมาเกือบ 2 เดือน ขณะนี้ ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานทั่วประเทศ รวมถึงพยานในกลุ่มผู้ที่มีสถานะเป็น ส.ว. สำรอง ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของบุคคลในขบวนการ และวิเคราะห์ข้อมูลจากการใช้โทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ ยังมีการรับโอนสำนวนการสอบสวนจากสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ และ สภ.โกสุมพิทยาสัย ซึ่งเคยมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาอั้งยี่ เพื่อนำมารวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนนั้น

ความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 มีรายงานว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งมี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธาน และมีกรรมการรวม 7 ราย จากทั้ง สำนักงาน กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567

คณะกรรมการฯ ได้วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนพยานบุคคล รวมถึงตรวจสอบความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลต้องสงสัย เส้นทางการเงินที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก ส.ว. ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ

สำหรับในขบวนการนี้ ยังพบรูปแบบการลงคะแนนและการนับคะแนนที่ผิดสังเกต เช่น การเลือกหมายเลขผู้สมัครซ้ำๆ กันในหลายชุด

ทั้งนี้ นำข้อมูลไปวิเคราะห์แล้วพบการกระทำที่เข้าข่ายมีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป. การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 จึงส่งหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดให้ กกต. ประกอบการพิจารณาตามกฏหมายเลือกตั้ง อาทิ การพิจารณาเพิกถอนสิทธิ สว.

รายงานข่าวล่าสุด ระบุ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 138 ราย เริ่มรับทราบกระแสว่าอาจ กกต. เรียกตัวเข้าแจ้งข้อกล่าวหา ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561

ขณะเดียวกัน การสืบสวนสอบสวนของ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จาก กกต. และ ดีเอสไอ รวม 7 คน ยังคงดำเนินการอย่างเข้มข้น ละเอียดรอบคอบ ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏจากคำให้การของพยานและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์

ขณะที่วันพรุ่งนี้ 8 พ.ค. กกต. จะมีการทยอยเรียกแจ้งข้อกล่าวหาบรรดาสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 60 ราย ส่วนใหญ่เป็น สว.ที่มีชื่อเสียง ตามความผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ตามมาตรา 32 มาตรา 36 มาตรา 62 มาตรา 70 และมาตรา 77

รายงานข่าวระบุเพิ่มเติม บุคคลในกลุ่ม ส.ว. ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ล้วนมีพฤติการณ์และพยานหลักฐานชัดเจนว่ามิได้เข้าสู่ตำแหน่งโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม แต่มีลักษณะการ “ฮั้ว” หรือร่วมกันจัดการให้ได้มาซึ่งตำแหน่งโดยมิชอบ

ขั้นตอนถัดไป คือ ส.ว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ กกต. เพื่อรับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นไปตามระบบไต่สวน กกต. หากบุคคลใดไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนดเวลา จะถือว่า “ไม่ประสงค์จะให้การชี้แจง” แต่ จะยังไม่ถึงขั้นออกหมายจับ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้งจะพิจารณาดำเนินการต่อในประเด็นการทุจริต โดยอาจนำไปสู่การ ออกใบแดง และส่งเรื่องเพิกถอนสิทธิ สว. ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อไป

นอกจากนี้ การดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ส.ว. นั้น ล่าสุด ดีเอสไอ รับหน้าที่เป็นหน่วยหลักในการสอบสวนความผิดในคดีอาญาอื่น เช่น ข้อหาฟอกเงินและอั้งยี่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมทุจริต รับเงิน จัดตั้งกลุ่มโหวตเตอร์ และวางแผนฮั้วคะแนนเสียง

เบื้องต้นพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในขบวนการนี้ หลายร้อยคน โดยดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด หากสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องสรุปสำนวนส่งให้อัยการคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการต่อไปยัง ศาลอาญารัชดาภิเษก ฐานความผิดอาญานี้ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถสู้ได้ถึง 3 ศาล คือ ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ และศาลฎีกา

Back to top button