
CPAXT ปิดบวก 3% โบรกชี้ Q1 กำไรทะยานแตะ 2.7 พันล้าน ชูเป้าสูง 32 บาท
CPAXT ปิดบวก 3% โบรกมองกำไรไตรมาส 1/68 เติบโต 7% แตะ 2.7 พันล้านบาท รับรู้รายได้สาขาเดิม พร้อมเปิดสาขาใหม่ และธุรกิจค้าส่ง-ปลีกแกร่ง แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 32 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (7 พ.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ปิดตลาดวันนี้ อยู่ที่ระดับ 25.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 3.00% สูงสุดที่ระดับ 25.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ ต่ำสุดที่ระดับ 25.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134.07 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ CPAXT ว่าคาดกำไรปกติในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท ลดลง 33% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งนี้ การลดลงจากไตรมาสก่อนเป็นผลจากปัจจัยด้านฤดูกาล ซึ่งส่งผลให้ยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin – GPM) ปรับตัวลดลง
ขณะที่การเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1.5–2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ยอดขายรวมจะไม่ได้เติบโตโดดเด่นนัก เนื่องจากปี 2567 เป็นปีอธิกสุรทิน และมียอดขายหายไปในช่วงสั้น ๆ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 2.การขยายสาขาเพิ่มเติม และ 3.การปรับตัวดีขึ้นของ GPM เพิ่มขึ้น 18 จุดฐาน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนของธุรกิจค้าส่ง (แม็คโคร) คาดรายได้อยู่ที่ 70,000 ล้านบาท ลดลง 2% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอิงจากการเติบโตของ SSSG ที่เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับ ธุรกิจค้าปลีก (Lotus’s) คาดรายได้ที่ 55,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ทั้ง จากไตรมาสก่อน และ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจาก SSSG ที่เพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายในประเทศมาเลเซียยังคงเติบโตโดดเด่นกว่าธุรกิจในประเทศไทย ด้านต้นทุนบริษัทคาด GPM รวมอยู่ที่ 16.4% ลดลง 0.6% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ GPM ของแม็คโครคาดเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่ม Private Label และกลุ่มอาหารสด-เบเกอรี่ ทั้งนี้ GPM ของ Lotus’s คาดว่าจะทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) คาดอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับการขยายตัวของยอดขายออนไลน์ ส่วนต้นทุนทางการเงินคาดว่า อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1% จากไตรมาสก่อน และทรงตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คงคำแนะนา “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 32.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ CPAXT ว่า ในไตรมาส 1 ปี 2568 อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกอยู่ในระดับ ต่ำกว่า 1% โดยการเติบโตที่จำกัดนี้ได้รับแรงหนุนจากยอดขายสินค้าอาหารสดและช่องทางการขายแบบ Omni-channel ที่ยังคงแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในกลุ่มสินค้าอาหารแห้ง สินค้า ฮาร์ดไลน์ และของใช้ในครัวเรือนลดลง ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit – GP) ในระดับค่อนข้างสูง ส่งผลให้ GP ของกลุ่มธุรกิจขายปลีกถึงผู้บริโภค (B2C) ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน