EGCO อวดกำไร Q1 โตเท่าตัว แตะ 3.5 พันลบ. รายได้โรงไฟฟ้าหนุน-บุ๊กขายเงินลงทุน

EGCO โชว์กำไรไตรมาส 1/68 พุ่ง 115% แตะ 3,576.72 ล้านบาท รับรู้กำไรขายเงินลงทุน พร้อมหนุนจากกำไรโรงไฟฟ้าทุกกลุ่มโตต่อเนื่อง หลังต้นทุนซ่อมบำรุงลดลง


บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 พบว่ามีกำไรสุทธิ ดังนี้

บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,576.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,662.40 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนในไรเซ็กและบีอาร์ดับบลิวเอฟ โดยรายการซื้อขายสิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 และ วันที่ 7 มีนาคม 2568 ตามลำดับ

อีกทั้งไตรมาสที่ 1/68 กลุ่มเอ็กโกมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,609 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% หรือ 18 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/67 สาเหตุหลักจาก บฟข. เคซอน และเอสบีพีแอล มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงลดลงเนื่องจากมีระยะเวลาการซ่อมบำรุงตามแผนน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับ หยุนหลิน คัมแพซ และ บีพียู มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ในส่วนของการเติบโตจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 604% หรือ 338 ล้านบาท สาเหตุหลักจากรายได้ค่าความพร้อมจ่าย (AP) เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาสที่ 1/67 ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงลดลง

ด้าน บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าต่างประเทศ (PP) อาทิ เคซอน มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 32% หรือ 208 ล้านบาท สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงลดลง เนื่องจากมีระยะเวลาการซ่อมบำรุงตามแผนน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามรายได้ค่าขายไฟฟ้าลดลง เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงต่อหน่วยลดลง

ส่วน เอสบีพีแอล มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68  เพิ่มขึ้น 138% หรือ 198 ล้านบาท สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงลดลง เนื่องจากมีระยะเวลาการซ่อมบำรุงตามแผนน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และ เอ็กพีซีแอล มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 99% หรือ 93 ล้านบาท สาเหตุหลักจากปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการเติบโตจากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าต่างประเทศอื่น พบว่ามีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 600% หรือ 204 ล้านบาท สาเหตุหลักจากหยุนหลิน มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ครบ 80 ต้นแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง

ด้าน การเติบโตจากบริษัทผู้ลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก อาทิ เอ็กโก โคเจน, อาร์จี*, บีพียู, เคแอลยู, ซีดับบลิวเอฟ, วายจีพีและ เอ็นอีดี มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 347% หรือ 191 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก บีพียู เพิ่มขึ้น 182 ล้านบาทจากปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการซ่อมบำรุงตามแผนในไตรมาสที่ 1/67, ซีดับบลิวเอฟ เพิ่มขึ้น 19 ล้านบาท สาเหตุหลักจากปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความเร็วลม เฉลี่ยเพิ่มขึ้น

ขณะที่บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก (VSPP) มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 64% หรือ 9 ล้านบาท สาเหตุหลักจาก ทีดับบลิวเอฟ มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเร็วลมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ประกอบกับโซลาร์โก มีค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง

ส่วนธุรกิจอื่นๆ มีกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 130% หรือ 266 ล้านบาท สาเหตุหลักจากซีดีไอ เพิ่มขึ้น 248 ล้านบาท สาเหตุหลักจากรายได้อื่น เพิ่มขึ้น รวมไปถึงธุรกิจเอ็มเอ็มอี เพิ่มขึ้น 28 ล้านบาท สาเหตุหลักจากปริมาณ การส่งออกถ่านหินเพิ่มขึ้น

Back to top button