โบรกชู SPRC-BSRC ดาวเด่น รับค่าการกลั่นหนุน-ยีลด์สูง

“บล.กรุงศรี” มีมุมมองบวกต่อ SPRC-BSRC เด่นในกลุ่มโรงกลั่น รับอานิสงส์ค่าการกลั่นฟื้นตัว แรงกดดัน stock loss ลดลง หนุนกำไรและจ่ายปันผลระยะยาว


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แม้ราคาน้ำมันดิบในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจะอ่อนตัวลงราว 3-6% จากความกังวลเรื่องภาวะอุปทานล้นตลาด (oversupply) หากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC+ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันและเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาน้ำมันดิบกลับฟื้นตัวได้รวดเร็วในช่วงปลายสัปดาห์ จากสัญญาณเชิงบวกด้านการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เริ่มผ่อนคลายลง

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองว่าราคาน้ำมันดิบในเดือนพฤษภาคม 2568 มีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากแรงกดดันทั้งในด้านอุปทานส่วนเกินและความไม่แน่นอนทางการค้า แม้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในช่วงฤดูขับขี่ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถชดเชยแรงกดดันด้านอุปทานได้อย่างเพียงพอ

ในด้านของโรงกลั่น ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ได้แรงหนุนจากสเปรดของน้ำมันเบนซิน (gasoline spread) ที่เพิ่มขึ้นถึง 7% เนื่องจากความต้องการสำรองสินค้า (re-stocking) ในภูมิภาค ขณะที่ middle distillate spread ปรับลดลงจากการกลับมาเดินเครื่องผลิตของโรงกลั่นหลังการปิดซ่อมบำรุง โดยยังคงมุมมองค่าการกลั่นในเดือนพฤษภาคมว่าจะฟื้นตัวเมื่อเทียบรายเดือน ได้จากฤดูกาลขับขี่ในสหรัฐฯ และซัพพลายที่ยังคงถูกจำกัดบางส่วนจากการซ่อมบำรุง

สำหรับกลุ่มปิโตรเคมี ส่วนใหญ่สเปรดยังคงอ่อนตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยกเว้นสายอะโรเมติกส์ที่เริ่มมีการปรับลดกำลังการผลิต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ PX และ BZ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% และ 5% ตามลำดับ ขณะที่สายโอเลฟินส์อย่าง HDPE และ PP ปรับลดลง 5% และ 2% ตามลำดับ และสายโพลีเอสเตอร์ (PET) สเปรดแบบครบวงจรลดลง 4% จากราคาสินค้าสำเร็จรูปที่ปรับขึ้นน้อยกว่าต้นทุนวัตถุดิบ

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่มี yield น้ำมันเบนซินสูง เช่น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC และบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC ซึ่งยังโดดเด่นท่ามกลางความผันผวนของตลาด โดยมองว่ากลุ่มโรงกลั่นมีแนวโน้มฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ และแรงกดดันจาก stock loss ในไตรมาส 2/2568 จะลดลง ขณะเดียวกัน กลุ่มนี้ยังมีศักยภาพในการทำกำไรและจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่ได้เผชิญภาวะ oversupply รุนแรงเท่ากลุ่มปิโตรเคมี

Back to top button