
ETL แย้มไตรมาส 2 โตต่อ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้า LTL เพิ่ม
ETL เผยกำไรไตรมาส 1/68 โต 20% หลังธุรกิจกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ พร้อมเทิร์นอะราวด์ต่อเนื่อง คาดไตรมาส 2 ขนส่งผลไม้ไปจีนกลับมาโดดเด่น มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 15% จาก Cold Chain ที่โตไม่หยุด พร้อมเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า LTL เพิ่ม
นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 มีรายได้จากการให้บริการ 312.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 10.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และพลิกกลับมามีกำไรเพิ่มขึ้น 125% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปริมาณการขนส่งเพิ่มสูงขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีก่อน โดยเป็นการขนส่งในส่วนของ Domestic Transportation ในประเทศไทย และ ประเทศจีนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ มีการขยายตัวจากปริมาณงานขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับช่วงไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการขนส่งผลไม้ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ยอดนิยมที่มีความต้องการส่งออกเป็นจำนวนมากไปยังพื้นที่อื่นๆ ในภูมิภาค
ส่วนปี 2568 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 15% และ สามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิให้อยู่ที่ระดับ 5-10% โดยมองว่าธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนยังมีโอกาสเติบโตจากภาพรวมอุตสาหกรรมของธุรกิจต่างๆ ที่ยังมีความต้องการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีจุดเด่นทั้งด้านราคาที่ถูกกว่าการขนส่งทางด้านอื่นๆ โดยเฉพาะระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ Cold Chain ที่มองว่ามีการเติบโตสูง และ ต่อเนื่องจากปีก่อน
โดยปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนารูปแบบการบริหารงานด้านโลจิสติกส์ให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับการ Turnaround อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะยกระดับเทคโนโลยีการบริหารจัดการขนส่ง (Smart Logistics) โดยการใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนการบริหารจัดการขนส่งในแต่ละเส้นทางแบบเรียลไทม์ พร้อมขยายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ และ เพิ่มโอกาสการจับคู่เที่ยวกลับเพื่อลดปริมาณเที่ยวเปล่า โดยขยายฐานลูกค้าไปยังพื้นที่ใหม่ๆ อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะปรับปรุงกลยุทธ์ด้านราคา และ แรงจูงใจ เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขันในตลาดให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการนำเสนอการให้บริการระบบคลังสินค้า และ การขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Clod Chain Logistics) อย่างต่อเนื่อง และ จะเน้นการขยายตลาดไปยังกลุ่มธุรกิจการให้บริการขนส่งแบบไม่เต็มตู้ (LTL : Less than Truck Load) ซึ่งมองว่าลูกค้าในกลุ่มนี้ยังมีศักยภาพ รวมถึงมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯจะเพิ่มเส้นทางการให้บริการเพื่อเชื่อมต่อจุดหมายปลายทางให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น บริษัทฯเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ และ ช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ทำให้บริษัทฯสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
“ETL ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน พร้อมทั้งบริหารเที่ยวการขนส่งทั้งขาไปและขากลับให้เกิดประสิทธิภาพ และสามารถสร้างรายได้ให้สูงสุด อีกทั้งบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นพัฒนา และ เสริมศักยภาพการขยายตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเน้นการสร้างเครือข่ายผ่านบริษัทย่อยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางบกระหว่างประเทศ และ ยกระดับมาตรฐานการให้บริการสู่สากล เพื่อรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” นางสาวกฤชวรรณ กล่าว