
“พบชัย ภัทราวิชญ์” ชี้ SET ไซด์เวย์ แนะลงทุน 3 ธีมเด่น เน้นกำไรโต–ปันผลสูง
“พบชัย ภัทราวิชญ์” บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,172–1,195 จุด แม้ได้ปัจจัยบวกภายนอกหนุน แนะจับตาการลดน้ำหนักหุ้นไทยใน MSCI และเงินบาทแข็ง กดดันส่งออก กลยุทธิ์ลงทุนชู 3 ธีมเด่น เน้นหุ้นกำไรเติบโต-ปันผลสูง อาทิ ADVANC, CPALL, PTT, KTB เด่น
นายพบชัย ภัทราวิชญ์ นักกลยุทธ์ตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ และสินทรัพย์ดิจิทัล สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ว่า แนมโน้มตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นมาได้ โดยปัจจัยหลักที่คาดว่าจะช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้น คือการผ่อนคลาย Trade War หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเลื่อนกําหนดเรียกเก็บภาษีศุลกากร 50% จากสหภาพยุโรปออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. จากเดิม 1 มิ.ย.68
อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปได้ไม่ไกล โดยการปรับตัวขึ้นได้ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยในต่างประเทศ อีกทั้งปัจจัยภายในประเทศยังไม่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการเจรจาการค้าที่ยังไม่มีกำหนดวันที่ชัดเจน ขณะที่เวียดนามมีการเจรจาไปแล้ว
นอกจากนี้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/68 ที่ออกมาไม่สดใสมากนัก และมองว่าตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 1/68 ที่ออกมาเติบโตจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ทำให้ตลาดมองว่าตัวเลขผลประกอบการในไตรมาส 2/68 และตัวเลขจีดีพีจะออกมาไม่สดใสเช่นกัน
ด้านฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยติดต่อกัน 4 วัน กว่า 4,000 ล้านบาท และยังมีเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไทยถูกมองว่าเป็นตลาดปลอดภัย ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามการไหลเข้าของเม็ดเงินจำนวนมากยังส่งผลให้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยอาจแข็งค่าทะลุระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน และอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยในระยะถัดไป
ขณะที่ในสัปดาห์นี้นักลงทุนยังจับตาการปรับน้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่บางตัวเพิ่มเติม
ดังนั้นภาพรวมตลาดหุ้นไทยจึงมีแนวโน้ม แกว่งตัว Sideways อาจมีการดีดสลับขึ้นมาบ้าง แต่เป็นการปรับตัวขึ้นได้สั้นๆ และมีโอกาสถูกขายลดความเสี่ยงโดยมองกรอบบนของตลาดมองไว้ที่ประมาณ 1,185-1,195 จุด และกรอบล่างที่ประมาณ 1,172-1,175 จุด
สำหรับกลยุทธ์ในการเลือกหุ้นในช่วงนี้ตลาดหุ้นยังค่อนข้างแกว่งตัว อาจต้องใช้วิธีเลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยแนะนำเก็งกำไรธีมโดดเด่นเฉพาะตัว อาทิ 1.หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกําไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยมองกำไรไตรมาส 2/68 คาดกําไรปกติจะ เติบโตได้ทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า เลือก ADVANC, TRUE, CPALL, BTG, CPF
2.หุ้น SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป พร้อมคาดให้ Div. Yield ตั้งแต่ 5% ขึ้นไป อีกทั้งแนะนํา Outperform แนะนํา PTT, KTB, BBL, HMPRO
3.หุ้นเก็งกำไรหากต้องการเก็งกำไรในหุ้นระยะสั้นอาจต้องหาจังหวะที่ดีและอาจรอจังหวะที่ราคาหุ้นหรือดัชนี SET ย่อตัวลงมา ก่อนที่จะเข้าซื้อ เพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยง