
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 740 จุด รับข่าวสหรัฐเลื่อนเก็บภาษี EU-ความเชื่อมั่นผู้บริโภคหนุน
”ดาวโจนส์“ ปิดบวกกว่า 700 จุดหลัง “ทรัมป์” เลื่อนเก็บภาษี EU ช่วยคลายกังวลสงครามการค้า ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ พุ่งเกินคาดหนุนตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 740 จุด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 50% ต่อสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ออกไปจากวันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันที่ 9 กรกฎาคม เพื่อเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ และ EU มีเวลาหารือและเจรจาเชิงสร้างสรรค์ หลีกเลี่ยงความตึงเครียดทางการค้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,343.65 จุด เพิ่มขึ้น 740.58 จุด หรือ +1.78%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,921.54 จุด เพิ่มขึ้น 118.72 จุด หรือ +2.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,199.16 จุด เพิ่มขึ้น 461.96 จุด หรือ +2.47% โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มใน S&P500 ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งโดดเด่นเป็นพิเศษ
การเลื่อนกำหนดภาษีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังทรัมป์ได้รับโทรศัพท์จากนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งขอให้ขยายเวลาเพื่อให้มีช่องทางในการหารือร่วมกัน โดยผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ระบุว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขยายเส้นตายดังกล่าวออกไป”
ด้านสหภาพยุโรป โดยโฆษกหญิงพอลา ปินโญ แถลงว่าสองฝ่ายเห็นพ้องในการเร่งการเจรจาอย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าด้านภาษี พร้อมระบุถึงความพยายามในการรักษาเสถียรภาพทางการค้าโลก
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 98.0 ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ 85.7 ในเดือนเมษายน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 86.0 โดยได้แรงหนุนจากข่าวการบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการปรับลดภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งช่วยคลายความกังวลจากแนวโน้มสงครามการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดสองอันดับของโลก
นอกจากนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตลาด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 4.449% และพันธบัตรอายุ 30 ปี อยู่ที่ 4.9572%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทสลา (Tesla) ปรับตัวขึ้นแรงถึง 6.94% หลังอีลอน มัสก์ ประกาศลดบทบาททางการเมืองและกลับมาดูแลกิจการธุรกิจ โดยเฉพาะเทสลา ซึ่งประสบปัญหายอดขายตกต่ำท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากการที่มัสก์ดำรงตำแหน่งในกระทรวง DOGE
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 6.3% ในเดือนเมษายน หลังจากที่พุ่งขึ้น 7.6% ในเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังผันผวน
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, GDP ไตรมาส 1/2568 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเมษายน