
เริ่มแล้ว! “ทรัมป์” ขึ้นภาษีเหล็ก-อลูมิเนียม 50% อ้างปกป้องอุตสาหกรรมเหล็ก
“โดนัลด์ ทรัมป์” ลงนามขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% มีผลวันนี้ หวังปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ-กดดันคู่ค้าเร่งทำข้อตกลงใหม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากระดับ 25% เป็น 50% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในเวลา 00.01 น. ของวันที่ 4 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 11.01 น. ตามเวลาไทย
โดยทรัมป์ให้เหตุผลว่า อัตราภาษีที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ยังไม่เพียงพอต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศให้มีศักยภาพการผลิตที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศในยามฉุกเฉินหรือสงคราม โดยยืนยันว่าการเพิ่มอัตราภาษีครั้งนี้สอดคล้องกับคำมั่นที่จะปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ อย่างแท้จริง
ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการใหม่นี้จะช่วยลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงจากการพึ่งพาการนำเข้าโลหะจากต่างประเทศ และส่งเสริมขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ยังคงยกเว้นการขึ้นภาษีสำหรับโลหะนำเข้าจากสหราชอาณาจักรไว้ที่ 25% เดิม เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจาข้อตกลงภาษีหรือระบบโควตาใหม่ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือกรอบความร่วมมือเมื่อเดือนก่อน แต่ยังไม่สามารถตกลงรายละเอียดการลดภาษีได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ คำสั่งขึ้นภาษีดังกล่าวอาจเป็นชนวนใหม่ของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรทางเศรษฐกิจหลายประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่ทรัมป์กำลังกดดันให้เร่งทำข้อตกลงภาษีตอบโต้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดีในการกำหนดภาษีฝ่ายเดียวกำลังเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามทางกฎหมาย หลังจากที่ศาลสหรัฐฯ เพิ่งมีคำตัดสินเพิกถอนคำสั่งภาษีหลายรายการที่อาศัยกฎหมายภาวะฉุกเฉิน
แม้จะเผชิญแรงต้านทางกฎหมาย แต่ภาษีเหล็กและอลูมิเนียมไม่ได้รับผลกระทบจากคำตัดสินดังกล่าว เนื่องจากทรัมป์ใช้อำนาจภายใต้กฎหมายอีกฉบับที่ยังคงมีผลบังคับใช้ โดยฝ่ายบริหารของเขายังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการใช้มาตรการภาษีเป็นเครื่องมือทางการเมืองระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีดังกล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่โรงงานของบริษัท United States Steel Corporation ในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยแสดงจุดยืนสนับสนุนการเข้าซื้อกิจการของ Nippon Steel จากญี่ปุ่น แต่เน้นว่าสหรัฐฯ จะยังควบคุมอุตสาหกรรมนี้อยู่ “ในบางรูปแบบ” พร้อมย้ำว่า “เมื่อภาษียังอยู่ที่ 25% พวกเขายังข้ามกำแพงได้ แต่เมื่อเป็น 50% จะไม่มีใครข้ามได้อีก”