CGSI มอง SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,120–1,150 จุด แนะเก็บ SYNEX–KBANK

CGSI มอง SET เคลื่อนไหวจำกัดในกรอบ 1,120–1,150 จุด จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-เสถียรภาพการเมืองไทยง และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (9 เม.ย.68) คาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบ 1,120-1,150 จุด แม้อาจจะมีแรงสนับสนุนในระยะสั้นจากปัจจัยเฉพาะตัวและข่าวเชิงบวกที่เข้ามาเป็นระยะ ทั้งในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม มองว่า Upside ยังคงจำกัด เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ในระยะกลาง-ยาว ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติมเจรจาการค้า และ จับตาข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ เดือนพ.ค. (11 มิ.ย.)

ทั้งนี้ มองว่าดัชนี SET วันนี้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นจากตัวเลขภาคตลาดแรงงานสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด และ ความหวังเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนที่มีรายงานว่าจะมีขึ้นในวันนี้พร้อมสัญญาณเชิงบวก

ด้านปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขดัชนี CPI ไทยเดือนพ.ค. หดตัว 0.57%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนดีกว่าตลาดคาดที่ -0.83% (vs. เดือนเม.ย. -0.22%) ขณะที่ Core CPI เติบโต 1.09%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงกว่าตลาดคาดที่ +0.95% (vs. เดือนเม.ย. +0.98%) สะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ สนับสนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง. ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น 1 ครั้งใน 3Q25 และ อีก 1 ครั้งใน 4Q25

นอกจากนี้ ติดตามประเด็นเสถียรภาพการเมืองไทย ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล (เพื่อไทย-ภูมิใจไทย) ที่จะกระทบต่อการดำเนินโครงการสำคัญ โดยเราคาดว่าจะมีการปรับครม. ในเร็วๆ นี้ รวมถึงติดตามประเด็นอดีตนายกฯ ทักษิณพักรักษาตัวที่รพ. ตำรวจ ชั้น 14 ที่จะมีการลงมติของแพทยสภา (12 มิ.ย.68) กรณีลงโทษ 3 แพทย์ที่เกี่ยวข้อง และศาลฎีกาที่จะมีนัดไต่สวน (13 มิ.ย.68) รวมถึงประเด็นในประเทศอื่นๆ อาทิ

1) ธปท. เตรียมกำกับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์โดยตรง หลังประกาศในราชกิจจาฯ มีผล 5 มิ.ย.2568 แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพดานดอกเบี้ยซึ่งยังคงอยู่ที่ 10% สำหรับรถใหม่, 15% รถมือสอง และ 23% สำหรับมอเตอร์ไซค์ทั้งใหม่-มือสอง โดยผู้ให้บริการสินเชื่อ Non-bank ทั้งหมดจะยังคงปฏิบัติตามนี้

2) กรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลรอบสองในรอบ 2 ปีของ TOP ที่ SBM#2 เมื่อ 6 มิ.ย. แต่ปริมาณน้อยกว่าครั้งก่อน (8,000 ลิตร vs. 60,000 ลิตร) เรามองว่าไม่กระทบกำลังผลิตหลักมากนัก และ ราคาหุ้นน่าจะปรับตัวลงแค่ในระยะสั้น เนื่องจากค่าการกลั่นยังแข็งแกร่งใน 2Q25 อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจกระทบภาพลักษณ์ด้าน ESG ซึ่งหนุนมุมมองเชิงลบในระยะยาว

ส่วนหุ้นแนะนำ

SYNEX : ในที่ประชุมนักวิเคราะห์ ฝ่ายบริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโตใน 2568 ที่ 10-12% ด้วยการขยาย Portfolio แบรนด์ใหม่ รวมถึงเจาะกลุ่มตลาดใหม่ รวมถึงอาจมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ลูกค้าทยอยเปลี่ยนเครื่องใหม่ หลังสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ของ Microsoft นอกจากนี้ การเปิดตัว Nintendo Switch 2 ในไทย คาดว่าจะช่วยผลักดันผลประกอบการ 2H25 (Take profit : 12.6 / Stop loss : 11.8)

KBANK : เชื่อว่า KBANK เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการขยายธุรกิจของ GULF ไปสู่ธุรกิจบริการทางการเงินและสินเชื่อดิจิทัล เรายังมองว่า KBANK และ AIS สามารถสร้างความร่วมมือในรูปแบบการร่วมทุน เพื่อให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่รับประกันโดยข้อมูลการชำระเงินรายเดือน(Take profit : 157.0 / Stop loss : 154.0)

Back to top button