CGSI มอง SET “ไซด์เวย์” 1,125-1,150 จุด แนะลงทุน BBL-MOSHI เด่น

CGSI มอง SET “ไซด์เวย์” กรอบ 1,125-1,150 จุด ไร้ปัจจัยใหม่หนุนภายในประเทศ แนะจับตาการศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนคดีอดีตนายก และความขัดแย้งแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ชูลงทุน BBL สินเชื่อหดตัวน้อยกว่ากลุ่ม และ MOSHI เด่นสุดกลุ่มค้าปลีก


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (10 มิ.ย.68) คาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหว Sideway ในกรอบ 1,125-1,150 จุด แม้ตลาดคาดหวังว่าการเจรจ้าการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน จะมีความคืบหน้ามากขึ้น แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยหนุนบวกในระยะสั้น-กลาง เพื่อรอประเด็นในประเทศคลี่คลาย ได้แก่ 1.) ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนคดี กรณีการรักษาตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี วันที่ 13 มิ.ย. นี้

2.) ความขัดแย้งแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากเมื่อวาน กัมพูชาตอบโต้ไทยด้วยมาตรการเดียวกัน โดยจำกัดพลเมืองเข้าประเทศ จาก 60 วัน เหลือ 7 วัน (พลเมืองไทย ต้องเดินทางออกนอกประเทศ และประทับตราหนังสือเดินทางใหม่)

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำติดตามการประชุมวันที่ 14 มิ.ย. 68 ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชานแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission หรือ JBC)

โดยเชื่อว่าหากประเด็นดังกล่าวคลี่คลาย, การปรับครม. เสร็จสิ้น, รัฐบาลกลับมาทำหน้าที่ได้เต็มที่ และ อัตราเงินเฟ้อไทยที่หดตัวหนุนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แก่ fund flow ต่างชาติได้บางส่วน ท่ามกลาง Valuation ของ SET Index ที่ไม่แพง บริเวณ 12-m forward P/E ที่ได้สะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และนักท่องเที่ยวจีนอ่อนแอไปพอสมควร

สำหรับประเด็นอื่นๆ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ได้เข้าซื้อหุ้น DuyTan JSC (DuyTan Plastics Manufacturing Corporation) เพิ่มเติมจาก 70% เป็น 100% โดยฝ่ายนักวิเคราะห์ประมาณการว่าสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหม่จะเพิ่มกำไรสุทธิราว 244 ล้านบาทต่อปี จากการประมาณการของฝ่ายนักวิเคราะห์ โดยการทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้นในเดือน มิ.ย. เชื่อว่าราคาซื้อขายสะท้อน PE ที่ 15 เท่า และ EV/EBITDA ที่ 8 เท่า เป็นราคาที่สมเหตุสมผล และเป็นบวกในมุมของฝ่ายนักวิเคราะห์

โดยหุ้นแนะนำลงทุน คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL มีความเสี่ยงจากการหดตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยน้อยกว่า ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB สำหรับปี 68-69 เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อแก่ Retail และที่อยู่อาศัยเพียง 12% ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และมี Dividend yield ราว 6.3-6.5% สำหรับปี 68-70

(Take profit : 149.5 / Stop loss : 135.0)

รวมไปถึง บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ท่ามกลางกลุ่มค้าปลีกที่ส่งสัญญาณอ่อนแอจากยอดขายสาขาเดิม SSSG ที่ลดลงในเดือน เม.ย.-พ.ค. ฝ่ายนักวิเคราะห์เชื่อว่ากลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภค บริโภคจะได้รับผลกระทบน้อยสุด เช่น สินค้า Life style ที่มีราคาถูก เชื่อว่าแบรนด์ที่แข็งแกร่ง รูปแบบสาขาที่ขยายได้ จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และจะทำให้ MOSHI outperform กลุ่มค้าปลีก

(Take profit : 44.5 / Stop loss : 39.5)

Back to top button