SET สัปดาห์นี้ “ไซด์เวย์” จับตาประชุม FOMC-BoJ-การเมืองไทย ชู ADVANC-CPF-PTTGC หุ้นเด่น

บล.กรุงศรี ชี้ SET สัปดาห์นี้ "ไซด์เวย์" จากความตึงเครียดภูมิภาค–การเมืองในประเทศ นักลงทุนรอผลประชุมเฟด–BoJ และความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีน พร้อมคาด FTSE Rebalance ฉุดกระแสเงินทุนไหลออก แนะเก็งกำไรหุ้นเด่นพื้นฐานแกร่ง ชู ADVANC–CPF–PTTGC หุ้นเด่น


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16–20 มิถุนายน 2568 ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด จากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังไร้แนวโน้มคลี่คลาย ขณะที่ในประเทศเริ่มมีความไม่แน่นอนทางการเมืองเพิ่มขึ้น หลังมีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี

ขณะเดียวกัน ยังมีแรงกดดันจากปัจจัยเฉพาะในช่วงปลายสัปดาห์ โดยในวันที่ 20 มิ.ย. จะมีการปรับน้ำหนักของดัชนี FTSE Rebalance ซึ่ง KSS คาดว่าอาจส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกสุทธิ (Net Outflows) จากตลาดไทยราว 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ระดับ Current Equity Risk Premium (ERP) ที่ 5.5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยบวก 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ยังคงสะท้อนว่าตลาดไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

กลยุทธ์หลักแนะนำ “Selective Buy” โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่

ADVANC (เป้าหมาย 340 บาท): หุ้น Defensive ได้อานิสงส์จากรอบขาขึ้นของธุรกิจโทรคมนาคม

CPF (เป้าหมาย 35 บาท): ได้ประโยชน์จากความคืบหน้าการเจรจาการค้าไทย–สหรัฐฯ

PTTGC (เป้าหมาย 28 บาท): รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันและกระแสส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ด้านปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุม FOMC วันที่ 17 มิ.ย. คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25–4.50% พร้อมติดตาม Dot Plot เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ย และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. คาด -0.7% และดัชนีภาคการผลิตคาดทรงตัว

อีกทั้งการประชุม BoJ ญี่ปุ่นวันที่ 17 มิ.ย. คาดคงดอกเบี้ย 0.5% และอาจเริ่มลดวงเงินซื้อ JGB และตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ยุโรป วันที่ 18 มิ.ย. คาดอยู่ที่ +1.9% YoY

ด้านจีนติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือน พ.ค. ได้แก่ การผลิตภาคอุตฯ +6.0%, ค้าปลีก +4.9%, และการลงทุนสินทรัพย์ถาวร +4.0% พร้อมติดตามอัตราดอกเบี้ย LPR วันที่ 20 มิ.ย.

ส่วนประเทศไทย จับตาการเมืองภายในที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรี รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อภาพรวมการส่งออกและความเชื่อมั่นนักลงทุน

Back to top button