
“พงศ์ภัทร” มอง SET “ซึมตัว” ชูลงทุน “กลุ่มพลังงาน” รับราคาน้ำมันดิบพุ่ง
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ มอง SET ซึมตัวลง เผชิญแรงกดดันทั้งในและนอกประเทศ มองแนวรับสำคัญ 1,118–1,094 จุด แนะจับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง-นโยบายดอกเบี้ยสหรัฐ ส่วนกลยุทธ์ลงทุนชู PTT-BCP–PTTGC–PTTEP เด่น รับราคาน้ำมันดิบพุ่ง
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (16 มิ.ย.68) ว่าแนวโน้ม SET Index ยังเคลื่อนไหวลักษณะซึมตัว มองแนวรับไว้ที่ 1,118 จุด แต่หากหลุดระดับดังกล่าวอาจต้องไปจับตาแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,094 จุด
อย่างไรก็ตาม SET ยังมีปัจจัยสนับสนุนจาก กลุ่มพลังงาน ตามราคา น้ำมันโลก ที่เพิ่มขึ้นจากภาวะ สงครามตะวันออกกลาง โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มอง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังประเมินว่าหุ้นที่มีแนวโน้มได้รับประโยชน์เพิ่มเติม คือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูงและโอกาสได้รับผลกระทบน้อยกว่าในแง่ของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ส่วนหุ้นที่แนะนำนักลงทุนระมัดระวัง คือ กลุ่มท่องเที่ยว–โรงพยาบาล อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS จากปัจจัยชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการลดลง
สำหรับประเด็น คิงเพาเวอร์ ขอเลิกสัญญาดิวตี้ฟรี 3 สนามบินของ AOT แม้เริ่มรับรู้ปัจจัยลบไปบางส่วนแล้ว แต่ล่าสุดมีรายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามาว่าสนามบินหลักอย่าง สุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง ถูกเพิ่มเข้าไปในประเด็นดังกล่าวจะยังเป็นปัจจัยที่อาจกดดันราคาหุ้น ทั้งนี้ ขอให้ติดตามความชัดเจนอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้ 16 มิ.ย. เนื่องจากจะมีการประชุมนักวิเคราะห์ คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ขณะที่รายละเอียดประเด็นสงครามอิหร่านและอิสราเอล ฝ่ายนักวิเคราะห์ มองว่าต้องจับตาท่าทีของสหรัฐ เนื่องมาจากเป็นที่รู้กันดีว่ามีความใกล้ชิดอิสราเอล ล่าสุดการโจมตีของอิสราเอลในระยะหลัง มีเป้าหมายมุ่งไปที่ฐานปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ของอิหร่าน
สอดคล้องกับประเด็นสหรัฐที่ต้องการเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับข้อตกลงจำกัดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวยังได้แจ้งเตือนสหรัฐ ล่วงหน้า ซึ่งต้องจับตาว่าสหรัฐจะถูกมองว่ามีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้โดยตรงหรือไม่ หากสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นนั้น พอเปรียบเทียบได้กับกรณีของสงครามระหว่าง ยูเครน–รัสเซีย รวมไปถึง มองว่าอาจทำให้ราคาพลังงานโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยการปรับตัวขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่กดดันอัตราเงินเฟ้อให้สูง ซึ่งหากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจริง ก็จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
โดยก่อนช่วงเดือนมีนาคม กรรมการ Fed ประมาณ 9 คน สนับสนุนแนวโน้มการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง แต่หลังจากสหรัฐได้มีการประกาศมาตรการขึ้นภาษี เมื่อรวมปัจจัยจากทั้ง ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น และ ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ อาจทำให้ Fed ต้องพิจารณาชะลอการปรับลดดอกเบี้ยลงจากที่เคยประเมินไว้
ขณะที่ ผลกระทบต่อ SET Index ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบรรยากาศอยู่ในภาวะซึมตัวและมีแนวโน้ม “แกว่งตัวลง” โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,095 จุด อาจเห็นแรงซื้อเข้ามาเป็นระยะทำให้มีจังหวะ “รีบาวด์” ได้บ้างในช่วงสั้น ปัจจัยสำคัญที่กดดัน คือ มาตรการขึ้นภาษี ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากกว่าหลายประเทศ เนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐระดับสูง ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทย นั้น ฝ่ายนักวืเคราะห์คาดว่าตัวเลข GDP ไตรมาส 1/68 น่าจะเป็นช่วงที่สูงที่สุดของปีนี้ และมีแนวโน้มชะลอลงในไตรมาสต่อ ๆ ไป
นอกจากนี้ ไทยยังไม่เห็นสัญญาณของเม็ดเงินทุนไหลเข้า ปัจจัยหลักที่กดดัน คือ โครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่มีเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ๆ และการลงทุนภาคเอกชนยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม แม้มีงบประมาณลงทุน 1.57 แสนล้านบาท แต่ในความเป็นจริงฝ่ายนักวิเคราะห์อยากเห็นการลงทุนที่มากกว่านั้น เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับเศรษฐกิจ และลดความเสี่ยงจากการชะลอตัวในระยะยาว