
“คลัง” ยกเว้นภาษี Capital Gains คริปโทฯ หนุนขึ้นแท่นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลโลก
กระทรวงการคลัง ยกเว้นภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต 5 ปี ตั้งแต่ปี 2568-2572 หนุนไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก เพิ่มความโปร่งใสและเชื่อถือได้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของโลกเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gains) จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ได้แก่ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Broker) และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงิน (Financial Hub) ของโลก
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ของโลกที่มีกฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและกฎหมายภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล และต่อมาได้มีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมให้มีการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลและส่งเสริมให้การซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเกิดขึ้นผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลในคราวนี้จะทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
รวมถึงธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้น ตลอดจนการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น อันจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นและรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นในระยะปานกลางไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการภาษีนี้เป็นการสนับสนุนการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่อยู่ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีการดำเนินการตามข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force (FATF)) จึงเชื่อมั่นได้ว่า จะมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างดำเนินการตามกรอบการรายงานข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัลแบบอัตโนมัติ (Crypto-Asset Reporting Framework: CARF) ของ OECD ซึ่งเป็นการเเลกเปลี่ยนข้อมูลสินทรัพย์ดิจิทัลกับประเทศทั่วโลก อันจะทำให้การทำธุรกรรมทางสินทรัพย์ดิจิทัลมีความโปร่งใสเพิ่มขึ้นอีก
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX ระบุว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเน้นยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Capital Gains) ที่ทำผ่านผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2572
มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างโปร่งใส สนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยคาดว่าจะเพิ่มรายได้ภาษีในระยะกลางไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
กฎหมายดังกล่าวมีประเด็นสำคัญในการทำให้ตลาดคริปโตในประเทศไทยคึกคักขึ้น ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และอาจนำไปสู่การเก็บภาษีในรูปแบบอื่น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอนาคต
นอกจากนี้ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของโลกที่มีกฎหมายและมาตรการด้านภาษีที่ชัดเจนในการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะนี้กรมสรรพากรก็ได้เตรียมความพร้อมตามมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อให้การทำธุรกรรมดิจิทัลในประเทศมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้น
เชื่อมั่นว่ามาตรการนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเติบโตบนเวทีโลกอย่างยั่งยืน