WTI ร่วง 5% หลุดแนวรับ 65 เหรียญ หลัง “ทรัมป์” ผ่อนคลายคว่ำบาตร “อิหร่าน”

ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งกว่า 5% หลัง “ทรัมป์” ส่งสัญญาณจีนยังซื้อน้ำมันอิหร่านได้ สะท้อนท่าทีอ่อนลง ขณะที่ตลาดยังจับตาสต็อกน้ำมันสหรัฐเพื่อรอดูสถานการณ์ราคาต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ร่วงลงอย่างหนักในช่วงค่ำวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ตามเวลาไทย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า “จีนยังคงสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไป และผมหวังว่าจีนจะซื้อน้ำมันจากสหรัฐด้วยเช่นกัน ซึ่งผมถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”

การส่งสัญญาณดังกล่าวสะท้อนว่ารัฐบาลสหรัฐอาจผ่อนคลายนโยบายกดดันต่ออิหร่าน โดยเฉพาะมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ

ณ เวลา 21.43 น. ตามเวลาในประเทศไทย ราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาส่งมอบเดือนสิงหาคม ปรับลดลง 3.47 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 5.07% มาอยู่ที่ระดับ 65.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้หลุดระดับแนวรับสำคัญที่ 65 ดอลลาร์

ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดนับเป็นจุดเปลี่ยนจากจุดยืนเดิมของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยระบุเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า ประเทศใดที่ยังคงซื้อน้ำมันจากอิหร่านจะถูกห้ามทำธุรกิจกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การเปิดช่องให้จีนซื้อน้ำมันจากอิหร่านสะท้อนถึงแนวทางใหม่ที่อาจเอื้อประโยชน์ต่อเสถียรภาพในภูมิภาคและตลาดพลังงาน

ข้อมูลจาก Kpler ระบุว่า จีนยังคงเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากอิหร่านรายใหญ่ คิดเป็นปริมาณราว 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนหลักของการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข่าวการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งช่วยลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หนึ่งในภูมิภาคยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของโลก

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ รวมถึงข้อมูลอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะประกาศในวันถัดไป โดยข้อมูลดังกล่าวจะมีอิทธิพลต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ

Back to top button