
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 217 จุด รับความหวัง “เฟด” ลดดอกเบี้ย-ภาษีทรัมป์กระทบน้อย
ดาวโจนส์ปิดบวก 217 จุด หลังรายงานประชุมเฟดหนุนแนวโน้มลดดอกเบี้ย ขณะ Nvidia พุ่งทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ หนุน Nasdaq ปิดทำนิวไฮ หุ้นเทคใหญ่ร่วมหนุนตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกในวันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568 ขานรับรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งสะท้อนมุมมองของกรรมการเฟดส่วนใหญ่ที่เห็นว่าเหมาะสมต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเชื่อว่าแรงกดดันเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีผลกระทบเพียงชั่วคราวและไม่รุนแรง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,458.30 จุด เพิ่มขึ้น 217.54 จุด หรือ +0.49% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,263.26 จุด เพิ่มขึ้น 37.74 จุด หรือ +0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,611.34 จุด เพิ่มขึ้น 192.87 จุด หรือ +0.94% โดยเป็นการปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดมาจากความแข็งแกร่งของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งมูลค่าตลาด (Market Cap) พุ่งทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างวัน ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 3.97 ล้านล้านดอลลาร์ และราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.8% กลายเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าตลาดเกิน 4 ล้านล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ อาทิ หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.4%, หุ้นอะเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 1.5%, หุ้นอัลฟาเบท บวก 1.43% และหุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.02%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนเริ่มปรับตัวกับแนวทางการเจรจาเชิงรุกของรัฐบาลทรัมป์ โดยมองว่ากำหนดเวลาการจัดเก็บภาษีที่เลื่อนออกไปถึงวันที่ 1 สิงหาคม จะเปิดโอกาสให้ประเทศคู่ค้าสามารถเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้าได้ ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณว่าการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับสหรัฐฯ อาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่วัน
ด้านความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์ ล่าสุดมีรายงานว่าได้ส่งจดหมายถึง 7 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย อิรัก ลิเบีย ศรีลังกา บรูไน มัลโดวา และฟิลิปปินส์ เพื่อแจ้งอัตราภาษีศุลกากรใหม่ โดยกำหนดเรียกเก็บภาษี 30% กับ 4 ประเทศแรก, 25% กับบรูไนและมัลโดวา และ 20% กับฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกัน หุ้นโบอิ้ง (Boeing) ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3.7% ปิดที่ระดับ 226.60 ดอลลาร์ หลังบริษัท Susquehanna ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 240 ดอลลาร์เป็น 252 ดอลลาร์ต่อหุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นต่อยอดการส่งมอบเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนมิถุนายน