CIVIL จ่อเซ็น 4 โครงการใหม่ หนุนแบ็กล็อกปีนี้แตะ 6 พันล้าน

CIVIL เตรียมส่งมอบ 3 โครงการช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมเซ็นเพิ่ม 4 สัญญาใหม่กว่า 3,000 ล้านบาท ตั้งเป้า Backlog ปีนี้แตะ 6,000 ล้านบาท เดินเกมรักษาเสถียรภาพธุรกิจท่ามกลางภาวะผันผวน


นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มปรับตวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทเตรียมส่งมอบงาน 3 โครงการ ได้แก่

1.โครงการท่าอากาศยาน จังหวัดกระบี่ 2.โครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก และ 3. โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว รวมถึงทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือได้ตามแผนที่วางไว้

ขณะเดียวกัน บริษัทมีโครงการที่ลงนามสัญญาแล้ว 1 โครงการ และอยู่ระหว่างรอลงนามสัญญา 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท อาทิ งานก่อสร้างถนน และงานระบายน้ำ อีกทั้ง อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสำหรับยื่นประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้าง ทั้งงานโครงสร้างพื้นฐาน โครงการรถไฟความเร็วสูง งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้ได้ตามเป้าหมาย 6,000 ล้านบาทในปีนี้

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะมีงานโครงการใหม่ของภาครัฐทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 การเร่งรัดโครงการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเตรียมความพร้อมของงบประมาณปี 2569 ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

อย่างไรก็ตามสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงาน และแนวโน้มด้านนโยบายภาษี ซึ่งล้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

“ปี 2568 ถือเป็นปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการบริหารความต่อเนื่องของโครงการท่ามกลางสภาวะที่ผันผวน อย่างไรก็ตาม บริษัทมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งในทุกมิติ โดยยึดกลยุทธ์ FAST ทั้งการบริหารโครงการอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย รักษากระแสเงินสด ฐานะการเงิน และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมส่งมอบผลงานตามกรอบเวลาที่กำหนด สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการรักษาเสถียรภาพ และดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว

Back to top button