
JMART จ่อออกหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ชูดอกเบี้ยสูง 5.80% ขายรายย่อย 4 – 6 ส.ค.นี้
JMART เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยสูง 5.60–5.80% เสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 4 - 6 ส.ค.68 ย้ำฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมแรงสนับสนุนจากบริษัทในกลุ่ม ด้าน “ทริสเรทติ้ง” จัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ “BBB”
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้ มีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [5.60 – 5.80]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม 2568 นี้
ทั้งนี้ JMART ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ที่อันดับเครดิต “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า กลุ่มบริษัทจะปรับแผนการลงทุนในช่วง 2 ปีข้างหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงรักษาภาระหนี้สินทางการเงินให้อยู่ในระดับปัจจุบัน นอกจากนี้สำหรับหุ้นกู้ JMART ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่อันดับเครดิต “BBB” ซึ่งในมุมมองของทริสเรทติ้ง มองว่านโยบายของกลุ่มบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการชำระหนี้มากกว่าการขยายการลงทุนในปี 2568 นั้นสะท้อนถึงแนวทางที่ระมัดระวังในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย
นายอดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึง ภาพรวมธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้าการเติบโตใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ ค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี ล่าสุดประกาศผลประกอบการจากงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 3,727 ล้านบาท กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทอยู่ที่ 140.3 ล้านบาท จากการบริหารจัดการภายในและ Power of Synergy ร่วมกันของบริษัทในกลุ่ม ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความท้าทาย คาดว่าครึ่งหลังของปี 2568 จะฟื้นตัวได้ดีขึ้น ด้วยแรงหนุนจากธุรกิจสินเชื่อและโมเดล Fin Tech และ Commerce Tech ของกลุ่ม
อีกทั้ง สะท้อนภาพการฟื้นตัวของผลประกอบการในกลุ่มบริษัท เชื่อว่าได้เข้าสู่ช่วงของการเทิร์นอะราวด์ สำหรับ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC พร้อมผลักดันสินเชื่อ Lock Phone ภายใต้โครงการ SG Finance+ ที่ได้เริ่มมียอดขายที่เติบโตชัดเจน สามารถสเกลได้ เป็นแพลตฟอร์มอันทรงพลัง ที่สามารถหาลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ให้รีเทิร์นผลตอบแทนที่สูง อีกทั้งยังบริหารความเสี่ยงได้ด้วย NPL ในระดับต่ำ ขณะที่ปัจจุบัน SINGER ไม่มีหนี้หุ้นกู้
ในด้านความแข็งแกร่งทางเงินทุนของกลุ่มบริษัทเจมาร์ท มีอัตราส่วนของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) ในระดับต่ำอยู่ที่เพียง 0.68 เท่า สะท้อนวินัยทางการเงินที่ดีและความพร้อมในการรองรับการเติบโตในอนาคต
นอกจากนี้ ความสำเร็จจากการลงทุนในฐานะ บริษัท Holding Company ที่มุ่งเน้นในกลุ่มธุรกิจ Commerce Tech และ Fin Tech บริษัทได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในบริษัทร่วม สร้างกระแสเงินสดจากเงินปันผลรับราว 530 ล้านบาท โดยเฉพาะจาก “สุกี้ตี๋น้อย” ไตรมาสแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท และส่งกำไรให้ JMART ถึง 79 ล้านบาท
ด้าน บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT แม้ภายใต้เศรษฐกิจที่ยังเปราะบางและภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง มองว่า JMT มีธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่มีความมั่นคง พร้อมทั้งเล็งเห็นโอกาสในการซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง
ในส่วนของ เจมาร์ท โมบาย (JMB) ซึ่งเป็นธุรกิจแกนของบริษัท มีกระแสตอบรับยอดขายที่ดีจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ การส่งเสริมยอดขายผ่านโครงการสินเชื่อมือถือ Lock Phone ภายใต้โครงการ SG Finance+ และ Samsung Finance+ ผ่านช่องทางร้านเจมาร์ทกว่า 300 สาขา ผลักดันภาพรวมยอดขายเติบโตต่อเนื่อง จากปี 2567 JMB มียอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่มากถึง 0.65 ล้านเครื่อง
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050, บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999, บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-205-7000 ต่อ 7387
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5555, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800, บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-820-0100
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-8945, บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6624, บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543, บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-659-5272-75
หมายเหตุ: บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน