MST รายได้นายหน้า-ค่าธรรมเนียมหด กดกำไร Q2 วูบ 95% เหลือ 2 ล้านบาท

MST รายงานงบไตรมาส 2/68 กำไรเหลือ 2 ล้านบาท ลดลง 95% จากปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 47 ล้านบาท เหตุรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมและบริการลดลง กดกำไรงวด 6 เดือนแรกหดตัว 39%


บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 และงวด 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิลดลง ดังนี้

สำหรับ MST รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.19 ล้านบาท ลดลง 95.33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 46.82 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 24.21 ล้านบาท จาก 196.66 ล้านบาท เหลือ 172.45 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12.31 เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 44,708.45 ล้านบาทต่อวัน เหลือ 40,799.84 ล้านบาทต่อวัน หรือลดลงร้อยละ 8.74 ขณะเดียวกัน สัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทลดลงจากร้อยละ 52.57 เหลือร้อยละ 49.80 ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลของบริษัทลดลงจาก 995.61 ล้านบาทต่อวัน เหลือ 887.15 ล้านบาทต่อวัน หรือลดลงร้อยละ 10.89

รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 8.77 ล้านบาท จาก 40.99 ล้านบาท เหลือ 32.22 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 21.40

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 21.63 ล้านบาท จาก 40.96 ล้านบาท เหลือ 19.33 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 52.81 โดยมีสาเหตุจากค่าที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 16.01 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ลดลง 4.44 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ลดลง 3.05 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ลดลง 2.02 ล้านบาท ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากการขายและการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น 3.89 ล้านบาท

รายได้ดอกเบี้ยลดลง 43.41 ล้านบาท จาก 268.58 ล้านบาท เหลือ 225.17 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 16.16 เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง 26.58 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรรัฐบาลลดลง 16.44 ล้านบาท

รายได้อื่นลดลง 6.15 ล้านบาท จาก 42.05 ล้านบาท เหลือ 35.90 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 14.63 โดยรายได้อื่นลดลง 12.36 ล้านบาท ขณะที่กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น 6.21 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 9.28 ล้านบาท จาก 11.81 ล้านบาท เหลือเพียง 2.52 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 78.61 โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ในงวดดังกล่าว

ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 133.88 ล้านบาท ลดลง 38.63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 218.14 ล้านบาท

Back to top button