
KKPS ชี้อสังหา Q2 กำไรอ่อนตัว แนะครึ่งปีหลังฟื้น SIRI-SPALI-AP เด่น
บล.เกียรตินาคินภัทร ประเมินกำไรกลุ่มอสังหาไตรมาส 2/68 ยังอ่อนแอ คาดครึ่งปีหลัง 2568 ทยอยฟื้นตัว ชู SIRI-SPALI-AP โตเด่นรับยอดขาย-แผนเปิดโครงการใหม่หนุน
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากปรับประมาณการกำไร SIRI (วันที่ 26 มิ.ย.) และ SPALI (วันที่ 25 ก.ค.) KKPS ได้ปรับลดคาดการณ์กำไรหลักปี 2568-2569 ของ AP ลง 6%-4% และ LH ลง 9%-2% จากยอดขายที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอ และอัตรากำไรขั้นต้นที่หดตัว (ฝ่ายวิเคราะห์ได้นำกำไรจากการขายสินทรัพย์ของ LH ในไตรมาส 2/68 เข้ามาคำนวณแล้ว)
ฝ่ายวิเคราะห์ตั้งราคาเป้าหมายใหม่ของ AP ที่ 8.0 บาท (เดิม 8.5 บาท) และ LH ที่ 4.0 บาท (เดิม 4.4 บาท) จากการปรับลดประมาณการดังกล่าว โดยคาดว่ากำไรของบริษัทฯ ต่าง ๆ จะต่ำสุดในไตรมาส 1/68 ขณะที่ยอดจองจะอ่อนตัวในไตรมาส 2/68
ทั้งนี้ SPALI มีพอร์ตสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และฐานะทางการเงินดี ขณะที่ SIRI ได้รับอานิสงส์จากมูลค่าหุ้นที่แลกการ์ด และแนวโน้มรีไฟแนนซ์ดีขึ้นหลังการออกหุ้นกู้ไม่มีวันครบกำหนดสำเร็จในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ AP, คงคำแนะนำ “ต่ำกว่าตลาด” สำหรับ LH,คงคำแนะนำ “ซื้อ” SPALI และคงคำแนะนำ “ซื้อ” SIRI
KKPS คาดว่ากำไรหลักของกลุ่มอสังหาฯ ในไตรมาส 2/68 ยังอ่อนแอ หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่จะเริ่มฟื้นตัวหากเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อน (QoQ)
ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า LH จะมีกำไรสุทธิเติบโต (42% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) หนุนโดยกำไรพิเศษจากการขายอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ (มูลค่า 7.85 พันล้านบาท คิดเป็นกำไรหลังหักภาษี 560 ล้านบาท) แม้กำไรหลักจะลดลง 15% เทียบไตรมาสก่อหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ น่าจะมีกำไรสูงสุดของปีในไตรมาส 2/68 และจะไม่มีกำไรจากการขายสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/68
ขณะที่ SIRI มีแนวโน้มสร้างกำไรหลักสูงสุดในกลุ่ม (4 บริษัทภายใต้การวิเคราะห์ของ KKPS) ที่ระดับ 1.1 พันล้านบาท (โต 82% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) หนุนโดยรายได้ที่อยู่อาศัยเติบโต และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง
อันดับสองคือ SPALI คาดกำไรหลัก 1.07 พันล้านบาท (โต 164% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) หนุนด้วยยอดขาย และส่วนแบ่งรายได้โครงการในออสเตรเลีย
ส่วน AP คาดกำไรหลัก 940 ล้านบาท (โต 9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากยอดขายที่อยู่อาศัยฟื้นตัว ด้าน LH คาดกำไรหลัก 869 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากฐานที่ต่ำมากในไตรมาส 1/68 (ต่ำสุดในรอบ 13 ปี)
ทั้งนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2/68 จะยังอยู่ในระดับอ่อนแอ SPALI อยู่ที่ 31.0%, AP อยู่ที่ 29.9%,SIRI อยู่ที่ 29.6% และ LH อยู่ที่ 27.0%
KKPS คาดการณ์เงินปันผลสำหรับผลงานในช่วงครึ่งปีแรก 2568 ดังต่อไปนี้ SPALI คาดเงินปันผล 0.25-0.40 บาท (อัตราจ่ายแบบ conservative 35%-50% / นโยบายปันผล 35%), LH คาดเงินปันผล 0.13 บาท (อิงอัตราจ่ายเฉลี่ย 70% ย้อนหลัง),SIRI คาดเงินปันผล 0.05 บาท (นโยบายจ่าย 50%) และ AP ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
ฝ่ายวิเคราะห์ระบุว่า ผลงานของผู้พัฒนาอสังหาฯ ชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และทยอยฟื้นตัวเมื่อเทียบเป็นรายเดือนขึ้นมาแตะ 70-80% ของระดับก่อนเกิดแผ่นดินไหว ส่วนกลุ่มบ้านแนวราบ และคอนโดฯ โลว์ไรส์ (low-rise) ยังคงมีความยืดหยุ่น โดยยอดจอง (pre-sale) รวมของ 10 บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 43,000 ล้านบาท (ลดลง 33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,ลดลง 25% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งใกล้เคียงช่วงโควิด-19 ในปี 2563 และสูงกว่าช่วงก่อนรัฐประหาร พ.ค. 2557 และน้ำท่วมปี 2554 จากการรวมส่วนแบ่งตลาด
อย่างไรก็ตาม KKPS มองว่า การฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 2568 จะยังไม่ทั่วถึง และขึ้นอยู่กับแรงกดดันจากสต๊อกสินค้าคงค้าง โดยผู้พัฒนาอสังหาฯ เตรียมชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่จากแผนเดิมที่วางไว้ โดยคาดว่า SIRI, SPALI และ AP จะเป็นผู้นำการฟื้นตัวด้วยการเติบโตของการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี