TFG มั่นใจรายได้ปี 68 โต 15% ปักหมุดเปิด “ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต” ครบ 620 สาขา

TFG ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 15% เดินหน้าขยายร้าน “ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต ครบ 620 แห่ง พร้อมเร่งลดต้นทุนและบุกตลาดส่งออกไก่


นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 19 ส.ค.68 ว่าในไตรมาส 2/68 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,552.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 206.73% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 832.03 ล้านบาท ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ของธุรกิจไก่ ธุรกิจสุกรทั้งในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม ธุรกิจอาหารสัตว์ และร้านค้าปลีก

ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่ารายได้รวมทั้งปี 2568 จะเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 65,000 ล้านบาท คาดแตะระดับราว 75,000 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากธุรกิจ “ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต” (Retail Business) ที่ปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้วราว 500 สาขา และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 600-620 สาขา ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาท

โดยบริษัทยังตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มจากเดิม 750 สาขาเป็น 850 สาขาภายในปี 2569 เพื่อครอบคลุมตลาดต่างจังหวัดและรองรับความต้องการผู้บริโภค โดยครึ่งปีแรกยอดขายเติบโต 18-19% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-15% โดยมาจากราคาสินค้าเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น 3-4% และปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการราว 350,000 คนต่อวัน คาดว่าครึ่งปีหลังยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%

สำหรับตลาดส่งออกธุรกิจไก่ยังสดใส คาดว่าปีนี้จะทำสถิติสูงสุด (Record High) ด้วยปริมาณส่งออก 90,000 ตัน แบ่งเป็นเนื้อดิบ 70,000 ตัน และเนื้อปรุงสุก 18,000 ตัน

ส่วนธุรกิจสุกร ยังเผชิญปัจจัยลบทั้งในประเทศไทยและเวียดนามจากภาวะน้ำท่วม สงคราม และโรคระบาด ส่งผลให้ราคาสุกรผันผวน TFG จึงปรับกลยุทธ์เน้นการจำหน่ายสุกรชำแหละผ่านช่องทางร้านค้า (Shop) ของบริษัทเพื่อสร้างความเสถียร ขณะที่ในเวียดนามการระบาดครอบคลุมกว่า 70-80% ของพื้นที่ กดดันให้ราคาปรับตัวลดลง แต่คาดจะทยอยฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568

โดยยอดขายครึ่งปีแรกเติบโตดีกว่าคาด อยู่ที่ 18-19% (มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้เพียง 10-15%) ซึ่ง 3-4% มาจากราคาสินค้า (เนื้อสัตว์) ที่สูงขึ้น และที่เหลือมาจากปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีลูกค้าเข้าใช้บริการราว 350,000 คน/วัน

ด้านต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวโพดที่ราคาต่ำกว่า 9 บาท/กก. และกากถั่วเหลืองที่บริษัทได้ทำสัญญาล็อกต้นทุนไว้แล้ว ทำให้แนวโน้มไตรมาส 3/68 ดีกว่าไตรมาส 2/2568 และไตรมาส 4/2568 จะดีกว่าไตรมาส 3/2568 ต่อเนื่องไปถึงปี 2569

โดยรวมแล้ว บริษัทยังมั่นใจว่าการเติบโตครึ่งปีหลังจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แม้ราคาสินค้าเกษตรปรับลดลง แต่การที่ต้นทุนวัตถุดิบลดลงจะช่วยหนุนผลประกอบการได้ ขณะที่กลยุทธ์หลักที่เหลือของปีนี้คือการมุ่งเน้นส่งออกไก่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และอาศัยปัจจัยบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงเป็นแรงสนับสนุน

Company Snapshot

Back to top button