
SCB EIC ชี้ธุรกิจโรงแรมปี 68 แข่งขันดุเดือด นักท่องเที่ยวจีนหดตัวหนัก
SCB EIC ประเมินธุรกิจโรงแรมปี 2568 เผชิญแรงกดดันนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนหดตัวกว่า 35% ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยยังเติบโต หนุนอัตราเข้าพักใกล้เคียงปีก่อน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (Economic Intelligence Center: EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจโรงแรมไทยปี 2568 ว่าต้องเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งด้านความปลอดภัย ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 7 เดือนแรกของปีลดลง -6.35% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือ 19.3 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวกว่า -35% อยู่ที่ 2.69 ล้านคน แม้ยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับหนึ่งที่เดินทางเข้าไทย รองลงมาคือมาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนกลับคืน พร้อมขยายตลาดใหม่จากยุโรปและตะวันออกกลางที่มีศักยภาพสูง คาดทั้งปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมลดลงราว -7%YoY เหลือ 32.9 ล้านคน โดยยังมีความเสี่ยงหากความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชายืดเยื้อ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว
ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยยังเติบโตต่อเนื่อง โดยช่วง 6 เดือนแรกมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้น 2.3%YoY อยู่ที่ 139.4 ล้านคน และคาดทั้งปีเติบโต 2.5%YoY รวม 277.1 ล้านคน จากแรงหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น “โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง” ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมทั่วประเทศมีแนวโน้มใกล้เคียงปี 2567 ที่ 72% แต่ราคาห้องพักเฉลี่ยคาดลดลงราว -5%YoY เหลือ 1,790 บาทต่อห้อง จากการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศ
โดยธุรกิจโรงแรมปีนี้ต้องเผชิญการแข่งขันเข้มข้นขึ้นทั้งด้านราคา บริการ และประสบการณ์ โดยมีแรงกดดันจากแพลตฟอร์ม OTA ที่เปิดให้เปรียบเทียบราคาได้สะดวก ทำให้โรงแรมต้องใช้กลยุทธ์ปรับราคา โปรโมชันพิเศษ และอัปเกรดห้องพักเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งยังต้องเร่งสร้างจุดขายด้านบริการและประสบการณ์ เช่น การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ และพัฒนาโรงแรมเฉพาะทาง เช่น Wellness resort และ Eco-hotel ขณะเดียวกัน ยังต้องเผชิญการแข่งขันระดับภูมิภาคจากประเทศคู่แข่งที่พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่อง รวมถึงการขยายตัวของเชนโรงแรมระดับโลกในอาเซียน
นอกจากนี้ กระแสความยั่งยืนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่นักท่องเที่ยวยุคใหม่ให้ความสำคัญ โรงแรมชั้นนำทั่วโลกต่างตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยหลายแห่งนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และหันมาใช้พลังงานสะอาด ขณะที่หน่วยงานรัฐอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ก็เร่งผลักดันให้ธุรกิจโรงแรมไทยก้าวสู่ความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล