CGSI มองกรอบ SET วันนี้ 1,230-1,260 จุด แนะลงทุน STECON-HANA

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (2 ก.ย.68) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยว่ามาตรการภาษีส่วนใหญ่ของปธน.ทรัมป์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.7 ในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.0 จากระดับ 48.0 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,295.81 จุด ลดลง 249.07 จุด หรือ -0.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,415.54 จุด ลดลง 44.72 จุด หรือ -0.69% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,279.63 จุด ลดลง 175.92 จุด หรือ -0.82%

สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ  สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 76.10 ดอลลาร์ หรือ 2.16% ปิดที่ 3,592.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคึกคัก ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ นอกจากนี้ ความเสี่ยงทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 69.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าไปที่รายได้จากน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันอาทิตย์นี้

โดยคาดการณ์กรอบ SET Index ในวันนี้ ณ ระดับ 1,230-1,260 จุด อาจมีแรงซื้อกลับและเก็งกำไรจากความคาดหวังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยตลาดคาดหวังการเมืองผ่อนคลายและมีทิศทางดีขึ้น โดยอาจเห็นทิศทางที่ชัดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม คือ พรรคประชาชนจะเลือกสนับสนุนนายกฯ คนใหม่จากพรรคใด จับตาการแถลงจากพรรคเช้านี้ (9.30)

ปัจจัยต่างประเทศ จับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ (5 ก.ย.68) ซึ่งส่งผลต่อมุมมองภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) 10 ปี ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 มาที่ 4.27% ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้มี Flow ไหลออกจากตลาด Emerging market ได้

หุ้นแนะนำ มี ดังนี้

บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON โดยทางฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อ STECON เพราะเชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาสถัดๆ ไปจะยังคงแข็งแกร่ง ที่ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท ซึ่งคิดเป็น P/B ที่ระดับ 0.68 เท่า ในปี 69 หรือ -1.25SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปี (Take profit : 7.70 / Stop loss : 7.45)

บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA มองว่ากำไรปกติต่อหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในครึ่งหลังของปี 68 จากผลขาดทุนที่ลดลงของ Powermaster และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล (Take profit : 24.70 / Stop loss : 24.20)