
CGSI อัพคำแนะนำซื้อ PTT ชี้อุปทาน “ก๊าซธรรมชาติ” เพิ่ม ฉุดต้นทุนพลังงานไทยลด
บริษัทหลักทรัพย์ CGSI คาดแนวโน้มราคาก๊าซ LNG โลกลดลงปี 69-70 หลังอุปทานเพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการใหม่ในหลายประเทศ ส่วนในไทย “อ่าวไทย” เพิ่มกำลังผลิต หนุนสัดส่วนก๊าซราคาถูกมากขึ้น คาดลดต้นทุน Pool Gas กว่า 9-11 บาท/mmbtu และเพิ่มคำแนะนำ PTT เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ”
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุดถึงแนวโน้มตลาดพลังงานโลกและไทย โดยคาดการณ์ว่าอุปทานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 7% ในปี 2569 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุปสงค์ที่ 2% โดยปัจจัยหลักมาจากการเริ่มดำเนินการของโครงการใหม่ในสหรัฐฯ, แคนาดา, และกาตาร์ ซึ่งจะส่งผลให้ราคา LNG ในตลาด JKM (Japan-Korean Market) ลดลงจาก $12.7/mmbtu ในปี 2568 เหลือเพียง $11.25/mmbtu ในปี 2569 และ $10.5/mmbtu ในปี 2570
นอกจากนี้ CGSI คาดว่าการผลิตก๊าซในอ่าวไทยจะเพิ่มสูงขึ้น หลังจากการลงทุนในแปลง A-18 โดยบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ซึ่งมีแผนรักษากำลังผลิตให้อยู่ที่ระดับ 400-500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmscfd) ไปอีก 10 ปีข้างหน้า ประกอบกับนโยบายภาครัฐที่มุ่งลดการพึ่งพา LNG นำเข้าราคาแพงด้วยการขยายเวลาปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินออกไป
ด้วยเหตุนี้ CGSI จึงปรับลดสัดส่วน LNG นำเข้าในประมาณการอุปทานก๊าซธรรมชาติของไทยลงจาก 33-35% เหลือเพียง 29-31% ในปี 2568-2570 ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุน Pool Gas โดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะลดลงประมาณ 9-11 บาทต่อ mmbtu ในช่วงเวลาดังกล่าว จากปัจจัยเชิงบวกเหล่านี้ ส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่มคำแนะนำกลุ่มน้ำมันและก๊าซของไทยจาก “Underweight” เป็น “Neutral” และเพิ่มคำแนะนำหุ้น PTT จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”
สำหรับกลุ่มปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PTTGC ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมีมุมมองเชิงลบ แม้ว่าไทยจะมีการนำเข้าอีเทนจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจากอาจไม่มีการประหยัดภาษีเพิ่มเติม และราคาก๊าซ Henry Hub ในสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุน
ทางกลับกัน กลุ่มสาธารณูปโภคจะได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มราคาก๊าซโลกที่ลดลง โดยเฉพาะ BGRIM ซึ่งได้รับการปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ถือ” รวมถึงบริษัทลูกในธุรกิจไฟฟ้าอย่าง GPSC ในขณะที่ GULF จะได้รับแรงหนุนจากโครงการ Jackson ในสหรัฐฯ ซึ่งได้รับประโยชน์จากราคาก๊าซ Henry Hub ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ความต้องการน้ำมันที่สูงกว่าคาดเป็นความเสี่ยงขาขึ้น (upside risk) ในขณะที่ราคาก๊าซโลกที่พุ่งสูงขึ้นกะทันหันจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นความเสี่ยงขาลง (downside risk) ของกลุ่มพลังงานและก๊าซ