
SKIN เคาะราคาไอพีโอ 1.20 บาท เปิดจองซื้อ 15-17 ก.ย. เตรียมเข้าเทรด mai
SKIN เสนอขาย IPO 44 ล้านหุ้น ราคา 1.20 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 15–17 ก.ย. เตรียมเข้าเทรดในตลาด mai ใช้เงินระดมทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายช่องทางขาย ทำตลาดแบรนด์ Skinsista และ Dermie พร้อมตั้งเป้าจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 44,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.20 บาท มูลค่าการเสนอขาย 52.80 ล้านบาท ระยะเวลาจองซื้อตั้งแต่วันที่ 15-17 กันยายน 2568 และจะเข้าซื้อขายในตลาด mai กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM เป็นปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
สำหรับเงินทุนที่ระดมทุนได้ 52.80 ล้านบาท บริษัทฯจะนำไปใช้ในช่วงปี 2568-70 ดังนี้
1.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม และ/หรือการคิดค้น วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องสำอางหรือเวชสำอางบำรุงผิวหน้าหรือผิวพรรณ หรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจและความเหมาะสมในการลงทุนในอนาคต
2.ใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาดและการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทั้งแบรนด์หลักปัจจุบันคือ Skinsista และแบรนด์ที่จะมุ่งเน้นทำ การตลาดเพิ่มเติม คือ Dermie
3.ใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาดและการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ต่าง ๆ ของบริษัท ผ่านการลงทุนให้ครอบคลุมช่องทางการจำ หน่ายหลัก (Market Landscape)
4.ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ เช่น การขยายช่องทางการจำหน่ายและฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้ พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: PER) ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ เท่ากับ 12 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีกำไรสุทธิของบริษัท เท่ากับ 15.05 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 144.00 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share:EPS) ของบริษัท เท่ากับ 0.10 บาทต่อหุ้น
โดยสัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period มีจำนวน 20,800,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 14.44 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัททั้งผู้ถือหุ้นที่เป็น “ผู้ที่มีส่วนร่วมในการบริหาร” และ “ผู้ที่ไม่มีส่วนร่วมในการบริหาร” ได้ตกลงและยินยอมโดยความสมัครใจที่จะไม่ขายหุ้นที่ตนถืออยู่เพิ่มเติมจากเกณฑ์ Silent Period ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือเรียกว่า “ระยะเวลาสมัครใจไม่ขายหุ้น” (Voluntary Share Lockup) จำนวน 20,800,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 14.44% ของทุนชำระแล้ว ภายหลังการเสอนขายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ เป็นระยะเวลา 3 เดือนนับแต่วันแรกที่หุ้นสามัญของบริษัทเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บริษัทได้กำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังจากหักเงินสำ รองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำ หนดไว้ในข้อบังคับบริษัท
สำหรับ SKIN ประกอบธุรกิจคิดค้น พัฒนา จ้างผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care/Make Up Care) ในการผลิตสินค้าทั้งหมดจะว่าจ้างโรงงานรับจ้างผลิต (Original Equipment Manufacturer : OEM) ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพในการผลิต และนำมาจำหน่ายผ่านช่องทางจำหน่ายที่หลากหลาย
ปัจจุบันบริษัทมีการทำตลาดผ่าน 2 แบรนด์ คือ Skinsista และ Dermie จำหน่ายผ่านหลายช่องทาง ได้แก่ 1) จำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) โดยเริ่มที่ร้าน Watsons เป็นแห่งแรก จากนั้นขยายการจำ หน่ายไปยังร้าน 7-11 CJ More (โซนร้าน Nine Beauty) และ Beautrium 2) ร้านค้าทั่วไป (General Trade) และ 3) จำ หน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) ผ่าน Shopee Lazada และ TikTok Shop