
TRUE-ADVANC ปักธงครึ่งปีหลังสดใส! กรุงศรีแนะซื้อ ชูศักยภาพกำไรโต-กระแสเงินสดแกร่ง
บล.กรุงศรีมีมุมมองบวกกลุ่ม ICT คาดกำไรกลุ่มปี 68 โตเฉลี่ย 32% หนุนทั้ง ADVANC และ TRUE แม้มีแรงกดดันจากแข็งขันแพ็กเกจพรีเมียร์ลีก EPL และ iPhone 17 แต่ประเมินแล้วไม่กระทบผลประกอบการ พร้อมเลือก TRUE ให้ราคาเป้าหมาย 18 บาท จากราคาหุ้นยังถูก กำไรฟื้นแรงครึ่งปีหลังและเตรียมจ่ายปันผลครั้งแรก
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เล่นหลักอย่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ซึ่งต้องเผชิญกับแรงกดดันการแข่งขันที่รุนแรงจากหลายปัจจัยสำคัญ เช่น การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก (EPL) และการเปิดตัว iPhone 17 ที่ส่งผลต่อแพ็กเกจและกลยุทธ์ทางการตลาดของทั้งสองบริษัท
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์นี้จะเจาะลึกถึงสถานการณ์การแข่งขันในตลาดปัจจุบัน ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อรายได้และกำไร รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของทั้ง ADVANC และ TRUE ในระยะข้างหน้า พร้อมคำแนะนำลงทุนจากฝ่ายนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) โดยระบุ ถึงข้อกังวลที่เป็นไปได้ทั้งหมดเกี่ยวกับ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาทิ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแข่งขันที่เกิดจากเหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ การถ่ายทอดสด โปรแกรมถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก (EPL) และการเปิดตัว iPhone 17 นอกจากนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังได้ทำการตรวจสอบช่องทางการแข่งขันผ่าน แพ็กเกจ ทั้งในระบบเติมเงินและระบบรายเดือนในเดือนกันยายน 2568 ข้อสรุปที่สำคัญจากการศึกษา มีดังนี้
1.) อัตราค่าบริการสำหรับแพ็กเกจหลักทั้งในระบบเติมเงินและรายเดือนในเดือนกันยายนไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากเดือนสิงหาคมและที่เราได้เห็นในเดือนมิถุนายน 2568 ราคาเริ่มต้น สำหรับแพ็กเกจเติมเงินยังคงอยู่ที่ 150 บาทต่อเดือน ซึ่งจำกัดปริมาณอินเทอร์เน็ต 10GB ที่ความเร็วสูงสุด 2Mbps สำหรับแพ็กเกจรายเดือนยังไม่มีตัวเลขการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในแง่ของราคา มีเพียงการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ คือ แพ็กเกจที่เกี่ยวข้องกับ EPL ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 699 บาทต่อเดือน
2.) สำหรับ EPL ฝ่ายนักวิเคราะห์มีโอกาสได้พูดคุยกับทั้ง ADVANC และ TRUE เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก EPL ต่อทั้งสองบริษัท ข้อความจากการพูดคุยกับทั้งสองบริษัทค่อนข้างคล้ายกัน คือ การโยกย้ายเข้า-ออก ของลูกค้าจากทั้งสองบริษัทที่เกิดจากคอนเทนต์ EPL นั้นไม่มีนัยสำคัญ
3.) มีความกังวลเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมในต่างประเทศเกี่ยวกับโปรโมชันอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์และการใช้จ่ายการตลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดตัว iPhone 17 และอาจจะทำให้ความสามารถในการทำกำไรของทั้ง ADVANC และ TRUE ลดลง ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นในไทย
เหตุผล คือ ทั้ง ADVANC และ TRUE ได้ลดโปรโมชันอุดหนุนค่าเครื่องสำหรับโทรศัพท์ทุกรุ่น รวมถึง iPhone ตั้งแต่ปีที่แล้วกับการเปิดตัว iPhone 16 เนื่องจากความรุนแรงของการแข่งขันที่ลดลง อัตรากำไรจากการขายเครื่องโทรศัพท์ของ ADVANC ในไตรมาส 3/2567 และไตรมาส 4/2567 เพิ่มขึ้นเป็น 5.6-6% ในช่วงที่เปิดตัว iPhone 16 จาก 1.8-2.3% ในไตรมาส 3/2566 และไตรมาส 4/2566 คาดว่าค่าใช้จ่ายทางการตลาดจะเพิ่มขึ้นแต่จะเพิ่มขึ้นตามรายได้
ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจนี้หลังจากที่ทำจุดต่ำสุดในปี 2566 ซึ่งได้เห็นวัฏจักรการเติบโตของกำไรใหม่สำหรับกลุ่มนี้ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 2567 การเติบโตของกำไรสำหรับปี 2567 ที่ระดับ 100% จากปีก่อน ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรของกลุ่มธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่อง
โดยคาดในปี 2568 ที่ 32% จากปีก่อน และ 16% จากปีก่อน ในปี 2569 มีปัจจัยหนุนจากทั้ง ADVANC และ TRUE ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรของ ADVANC จะเพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน ในปี 2568 และอีก 9% จากปีก่อน ในปี 2569
ในขณะที่กำไรของ TRUE จะพุ่งสูงขึ้น 71% จากปีก่อน ในปี 2568 และ 35% จากปีก่อน ในปี 2569 เหตุผลที่กำไรของ TRUE สามารถเติบโตได้เร็วกว่า ADVANC เป็นเพราะมีช่องว่างในการลดสวัสดิการพนักงานมากกว่า สิ่งนี้ สามารถเห็นได้จากความแตกต่างเป็น 2 เท่าระหว่างกำไรของ ADVANC ที่ 10 พันล้านบาทต่อไตรมาส และ TRUE ที่ 4.4 พันล้านบาทต่อไตรมาส เมื่อพิจารณาจากกระแสรายได้ที่ใกล้เคียงกัน
กลยุทธ์ลงทุน ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับทั้ง ADVANC ราคาเป้าหมาย 350 บาท และ TRUE ราคาเป้าหมาย 18 บาท โดยมีปัจจัยหนุนจากกำไรที่แข็งแกร่งและกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า แต่ฝ่ายนักวิเคราะห์เลือก TRUE มากกว่า ADVANC จาปปัจจัยสนับสนุน คือ
1.) เชื่อว่ากำไรของ TRUE ได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในช่วงไตรมาส 2/2568 แม้ว่าจะมีการปรับลดคำแนะนำรายได้และ EBITDA สำหรับปี 2568 ลง ซึ่งบ่งชี้ว่าการเติบโตของรายได้และ EBITDA ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะเร่งตัวขึ้นจากครึ่งแรกของปี รายได้จากการบริการไม่รวมค่าโครงข่าย (ex IC) ในช่วงครึ่งปีแรก ลดลง 0.5% จากปีก่อน หากตั้งเป้าให้การเติบโตของรายได้ที่คงที่ถึง 1% นั่นหมายความว่าการเติบโตของรายได้ในครึ่งหลังปี 2568 จะเร่งตัวขึ้น 0.5-2.5% จากปีก่อน หรือ 1.5-3.5% เมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน ในทำนองเดียวกัน การเติบโตของ EBITDA ในครึ่งปีแรก 2568 อยู่ที่ 4.8% จากปีก่อน เพื่อให้คงเป้าหมายการเติบโตของ EBITDA ที่ 7-8% สำหรับทั้งปี 2568 นั่นหมายถึงการเร่งตัวของการเติบโตของ EBITDA ที่ 9-11% จากปีก่อน และเมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน
ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์จึงคงคาดการณ์กำไรของเราที่ 15.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากปีก่อนในปี 2568 และ 35% จากปีก่อนในปี 2569 สิ่งนี้ตรงกันข้ามกับ ADVANC แม้จะมีการปรับเพิ่มคำแนะนำการเติบโตของรายได้และ EBITDA แต่เรายังเรียกได้ว่ามีการชะลอตัวของการเติบโตของกำไรในครึ่งหลังปี 2568 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายทางการตลาด ด้วยเหตุนี้ เราจึงยังคงประมาณการการเติบโตของกำไรที่ 21% จากปีก่อนในปี 2568 และ 9% จากปีก่อนในปี 2569
2.) ราคาหุ้น TRUE ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้สะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงในไตรมาส 2/2568 ไปแล้ว ราคาหุ้น TRUE ได้ลดลง 15% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากการประมูล เนื่องจากตลาดคาดว่า TRUE จะมีผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงจากเหตุการณ์ปัญหาด้านเครือข่ายล่ม
ในทางตรงกันข้าม ราคาหุ้น ADVANC ได้มีการปรับขึ้นที่ดี โดยเพิ่มขึ้น 8% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากการคาดการณ์ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/2568 และเงินปันผลระหว่างกาลที่สูง
ขณะที่ ฝ่ายนักวิเคราะห์เห็นว่าสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต กำไรของ TRUE ในช่วงครึ่งหลังปี 2568 จะเติบโตด้วยโมเมนตัมที่เร่งตัวขึ้นมากกว่า ADVANC อีกทั้ง TRUE ยังจะประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังปี 2568 ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นสำหรับ TRUE

