ก.ล.ต. รับแจ้งสายด่วนหลอกลงทุน 6,354 ครั้ง ปิดกั้นบัญชีต้องสงสัยกว่า 3 พันบัญชี

ก.ล.ต. เปิดสถิติสายด่วนแจ้งหลอกลงทุน ช่วง 1 ม.ค.-15 ก.ย. 2568 พบผู้แจ้งเบาะแส 6,354 ครั้ง พร้อมปิดกั้นบัญชีโซเชียลที่เข้าข่ายหลอกลงทุนแล้วกว่า 3,000 บัญชี ป้องกันภัยการเงินออนไลน์และคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างรอบด้าน


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยสถิติการดำเนินงานของ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” ในช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กันยายน 2568 โดยได้รับการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการหลอกลงทุนรวมทั้งสิ้น 6,354 ครั้ง ผ่านระบบรับแจ้งใน 6 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) โทรศัพท์ (1207 กด 22) อีเมล ([email protected]) การเดินทางมายังสำนักงาน ระบบบริการสนทนา และไปรษณีย์ โดยมีบัญชีโซเชียลมีเดียเข้าข่ายหลอกลงทุนที่ประสาน

โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและหน่วยงานภาครัฐเพื่อปิดกั้น จำนวน 3,036 บัญชี โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ปิดกั้นไปแล้วร้อยละ 100 ภายในเวลา 7 นาที – 48 ชั่วโมง และให้คำปรึกษาในเรื่องการหลอกลงทุน จำนวน 3,318 ครั้ง

ทั้งนี้ การดำเนินการปิดกั้นช่องทางการหลอกลงทุนบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนรายอื่นตกเป็นเหยื่อถูกชักชวนหลอกลงทุน และมีกระบวนการตรวจสอบ ตั้งแต่ตรวจสอบข้อมูล เก็บพยานหลักฐาน เตรียมเอกสารและข้อมูลเพื่อใช้ในการปิดกั้น ติดต่อผู้แจ้งเบาะแสเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ค้นหาข้อมูลที่ได้รับจากการแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม

รวมถึงติดต่อผู้ถูกใช้ชื่อในการหลอกลงทุนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการหลอกลงทุนจริง และระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการปิดกั้นเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศในการป้องกันการถูกชักชวนหลอกลงทุนให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุน และผู้ประกอบธุรกิจและหน่วยงานในตลาดทุน ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

โดยในประเทศเปิดรับสายตรงจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30 – 24.00 น. เพื่อให้ประชาชนหรือผู้ลงทุนที่จะดำเนินการแจ้งความและอายัดบัญชีกับ AOC 1441 แต่ยังไม่มั่นใจว่าถูกชักชวนหลอกลงทุนหรือไม่ ได้สอบถามข้อมูลก่อนการแจ้งความอายัดบัญชีเพื่อไม่ให้เกิดการแจ้งความเท็จเกิดขึ้น

การเข้าร่วมศูนย์บริการเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และด้านมนุษย์นานาชาติ (War Room) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนำข้อมูลที่ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนในตลาดทุนได้มีการแจ้งความมาดำเนินการตามกระบวนการของ ก.ล.ต.

เพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูล SEC Check First บน Cyber Check* ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนและผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลก่อนการลงทุน (สามารถสามารถดาวน์โหลดทั้งระบบ iOS และ Android) เข้าร่วม/จัดกิจกรรม แคมเปญ หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความตระหนักรู้และป้องกันการถูกชักชวนหลอกลงทุนให้แก่ประชาชน ผู้ลงทุน และผู้ประกอบธุรกิจและหน่วยงานในตลาดทุน ซึ่งมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “เสริมเกราะป้องกันให้บัญชีด้วย Brand Rights Protection & Meta Verified” โครงการให้ความรู้ภัยหลอกลวงออนไลน์ (Investment scam campaign) แคมเปญต้านภัยมิจฉาชีพออนไลน์ “Is This Legit?” และร่วมเสวนาในงานต่าง ๆ ร่วมกับ Meta Platform, Inc. และบริษัท เฟซบุ๊ก (ไทยแลนด์) จำกัด แคมเปญ #คนไทยรู้ทัน ปี 2567 และ 2568 ร่วมกับบริษัท ติ๊กต๊อก เทคโนโลยีส์ จำกัด หรือ เจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok เสวนา Smart Senior 2025 “วัยเก๋า ลงทุนฉลาด สมาร์ทดิจิทัล” ร่วมกับบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด

Back to top button