88TH เคาะไอพีโอ 5.45 บ. ระดมทุนขยายผลิตภัณฑ์ “ไลโอ”

88TH เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 5.45 บาท เปิดจองซื้อ 25-29 ก.ย.นี้ เดินหน้าเข้าตลาด mai กลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อระดมทุนพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม “ไลโอ” และออกแบบวิจัยสินค้าใหม่


 บริษัท 88 ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH เปิดเผยผ่านแบบ Filing ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 68 ว่าบริษัทได้กำหนดราคาหุ้นสามัญของบริษัทที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 5.45 บาท/หุ้น กำหนดการเสนอขายในระยะเวลาวันที่ 25 ก.ย.-26 ก.ย.และ 29 ก.ย.68 เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ  (mai) โดยจองซื้อผ่าน บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย), บล.บียอนด์, บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์, บล.ทรีนีตี้ และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

ทั้งนี้ ราคาหุ้น IPO คำนวณจากผลการดำเนินในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3/67 ถึงไตรมาส 2/68) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 89.72 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 170,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.53 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 10.28 เท่า ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้

ขณะที่ จำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่เกิน 59,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 28.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย 1.) หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 42,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 20.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้

2.) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Ilkano Pte. Ltd. จำนวนไม่เกิน 17,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 8.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้

โดย 88TH ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ภายใต้แบรนด์ “ไลโอ” กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ “โฮน” และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครืองสำอาง ภายใต้แบรนด์ “เวอร์.88” โดยมีการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ตัวแทนจำหน่าย และโมเดิร์นเทรดชั้นนำ

ส่วนวัตถุประสงค์การใช้เงินบริษัทมีแผนในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม และ/หรือการออกแบบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อขยายฐานผลิตภัณฑ์และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจและความเหมาะสมในการลงทุนในอนาคต รวมถึงใช้เป็นค่าใช้จ่ายการตลาด การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ จำนวน 213.79 ล้านบาท ภายในปี 71

Back to top button