
KKPS ชู 3 หุ้น “ค้าปลีก” ลุ้นมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” ดันยอดขาย Q4 โตแกร่ง
KKPS คาดยอดขายสาขาเดิมค้าปลีกไทยเดือนกันยายนติดลบ 1-3% จากฝนตกหนักและฐานสูงปีก่อน แต่แนวโน้มไตรมาส 3 ดีขึ้น พร้อมแนะลงทุน CPALL, CRC และ HMPRO ขณะที่ไตรมาส 4 คาดได้รับอานิสงส์ “คนละครึ่งพลัส” หนุนรายได้เติบโต
หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS เปิดเผยประมาณการทิศทางธุรกิจค้าปลีกในเดือนกันยายน 2568 โดยประเมินว่ายอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales: SSS) ของผู้ค้าปลีกไทยจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับติดลบ 1-3% สาเหตุหลักมาจากฝนตกหนักที่เป็นอุปสรรคต่อจำนวนผู้เข้าร้าน ราคาสัตว์เนื้อที่อ่อนตัวกระทบยอดขายอาหารสด รวมถึงฐานเปรียบเทียบที่สูงในปีก่อนจากมาตรการแจกเงินสดของรัฐบาล นอกจากนี้ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังคงเป็นปัจจัยกดดันการดำเนินงานในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในไตรมาส 3 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดย KKPS คาดว่า ยอดขายสาขาเดิมจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งติดลบ 4.8% และอาจปรับเพิ่มขึ้น 100-200 จุดฐาน (basis points) ปัจจัยสนับสนุนมาจากสภาพอากาศที่กลับสู่ภาวะปกติ ทำให้ธุรกิจค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยเริ่มมีแรงหนุนเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ยังคงมีแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมเป็นบวกเล็กน้อย โดยเฉพาะ CPALL ที่ได้รับอานิสงส์จากแคมเปญส่งเสริมการขาย ส่วน CPAXT แม้ยอดขายในไทยอาจลดลง แต่สามารถชดเชยด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ Lotus’s ในมาเลเซีย
สำหรับกลุ่มค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือย ยังมีแนวโน้มยอดขายสาขาเดิมติดลบ 1-6% จากจำนวนผู้เข้าร้านที่ลดลง กิจกรรมการก่อสร้างที่ชะลอตัว และการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลง แต่ KKPS มองว่าในไตรมาส 3 อาจเห็นการฟื้นตัวขึ้น 300-500 จุดฐาน เทียบกับไตรมาส 2 ที่ติดลบ 8.3% เนื่องจากสภาพตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติและนักท่องเที่ยวกลับมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำหรับแนวโน้มในระยะถัดไป KKPS ประเมินว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลในไตรมาส 4 จะเป็นแรงหนุนบรรยากาศการบริโภค โดยเฉพาะร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่น่าจะได้รับผลบวกทางอ้อมจากการเติมสต็อกของผู้ค้าปลีกดั้งเดิม
ดังนั้นจึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPALL, CRC และ HMPRO โดยกำหนดราคาเป้าหมายที่ 70 บาท 27.25 บาท และ 9.45 บาท ตามลำดับ ขณะที่หุ้น CPAXT ได้รับคำแนะนำ “ถือ” พร้อมราคาเป้าหมาย 29.50 บาท