
“แพทองธาร” ลดถือหุ้น SC เหลือ 24.99% ตามกรอบกฎหมาย ไร้กระทบบริหารงาน
SC แจง แพทองธาร ชินวัตร ลดสัดส่วนถือหุ้นเหลือ 24.99% จากเดิม 28.43% ตามกฎหมาย และป้องกันผลกระทบการบริหารงาน
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ SC ได้รับแจ้งจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (ผู้ถือหุ้น) ว่าตามที่ผู้ถือหุ้นได้รับโอนหุ้นของบริษัทฯจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จํากัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด ตามสัญญาเพื่อการจัดการทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรี ตามพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 รวมทั้งสิ้น 1,216,149,870 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.43 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 แล้วนั้น
การรับโอนหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นมีหน้าที่ต้อง ทำคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Tender Offer) ยกเว้นแต่จะได้มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ตํ่ากว่าร้อยละ 25 ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการตามข้อ 10 (1) ของประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ทจ.12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (กล่าวคือ ปรับสัดส่วนการถือหุ้นจากร้อยละ 28.43 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ ลงร้อยละ 3.44 เพื่อให้สัดส่วนการถือหุ้นเหลือร้อยละ 24.99)
โดยบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นว่าเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยและบริษัทฯ รวมถึงผลกระทบต่อการปรับตัวของราคาหุ้น อย่างรุนแรง ผู้ถือหุ้นได้ขอผ่อนผันจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ผู้ถือหุ้นสามารถขยายระยะเวลาในการลดสัดส่วนการถือหุ้นออกไปจนถึงวันที่ 1 เมษายน 2569 ซึ่งผู้ถือหุ้นได้รับการผ่อนผันเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผู้ถือหุ้นและ Stakeholders ส่วนอื่นของบริษัทฯ เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในการดำเนินการนี้ ผู้ถือหุ้นได้แจ้งต่อบริษัทฯ ว่าการปรับสัดส่วนการถือหุ้นลงจากร้อยละ 28.43 เป็นร้อยละ 24.99 ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามกฎหมายตามประกาศ ที่ ทจ.12/2554 กำหนดไว้เท่านั้น ไม่ได้เกิดจากสาเหตุอื่นใด โดยผู้ถือหุ้นยังคงให้การสนับสนุนบริษัทฯ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ต่อไปและยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพ ทิศทาง และความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งการปรับสัดส่วนนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุม นโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของ คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ แต่อย่างใด
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุถึง SC แจ้ง ตลท. หลังผู้ถือหุ้นใหญ่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในการขอและได้รับผ่อนผันการทำ Tender offer จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จนถึงวันที่ 1 เมยายน 2569 หลังทำการโอนหุ้นกลับจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จํากัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด
โดยหุ้นที่รับโอนรวม 28.43% ซึ่งเกินข้อกำหนดที่ต่ำกว่า 25% แต่ผู้ถือหุ้นไม่มีเจตนาในการทำ Tender offer ตามเกณฑ์ดังกล่าว จึงจะทำการลดสัดส่วนลงต่ำกว่าเกณฑ์ภายในกำหนดเวลา
สำหรับความเห็นฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมอง “เป็นกลาง” ต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงาน แต่หากวิธีการที่ผู้ถือหุ้นเลือกใช้ในการลดสัดส่วนภายใต้ระยะเวลาที่ได้รับผ่อนผันที่ค่อนข้างนาน เป็นการทยอยขายให้รายย่อยในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้นจนกว่าธุรกรรมการขายจะเสร็จสิ้น
ขณะที่ หากเป็นการขาย Big lots ให้สถาบันหรือบุคคลในวงจำกัด จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในกรอบเวลาที่สั้นกว่าและน่าจะกระทบราคาหุ้นในระดับที่ต่ำกว่า ซึ่งบนผลกระทบต่อพื้นฐานบริษัทที่ต่ำมาก ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงประมาณการ และคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 2.45 บาท