หุ้นยุโรปปิดบวก รับแรงซื้อกลุ่ม “พลังงาน” หนุน หลังราคาน้ำมันดิบพุ่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก รับแรงซื้อหุ้นพลังงานหนุน รับราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 5% จากมาตรการคว่ำบาตรใหม่ของสหรัฐฯ ต่อรัสเซีย ขณะนักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศงบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ต.ค.68) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย ขณะนักลงทุนจับตาความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจยุโรปจากรายงานผลประกอบการของหลายบริษัท

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 574.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ +0.37%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 8,225.78 จุด เพิ่มขึ้น 18.91 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,207.79 จุด เพิ่มขึ้น 56.66 จุด หรือ +0.23% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,578.57 จุด เพิ่มขึ้น 63.57 จุด หรือ +0.67%

ทั้งนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้น 2.7% ซึ่งทำผลงานรายวันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน หลังราคาน้ำมันดิบ ทะยานกว่า 5% จากการที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ของรัสเซียหลายแห่ง ท่ามกลางความตึงเครียดในสงครามรัสเซีย–ยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น

นักวิเคราะห์จาก Capital Economics ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัท Rosneft และ Lukoil ของรัสเซีย ถือเป็นการยกระดับการกดดันภาคพลังงาน ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกกลับเข้าสู่ภาวะขาดแคลนในปีหน้า ทั้งนี้ผลกระทบต่อราคาน้ำมันจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและประสิทธิภาพของการบังคับใช้มาตรการ

ขณะเดียวกัน บริษัทในยุโรปอยู่ระหว่างรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส โดยข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า 50% ของบริษัทในดัชนี STOXX 600 ที่รายงานผลจนถึงวันอังคารมีกำไรสูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 54%

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูเพิ่มขึ้น 1.2% โดยหุ้น Kering พุ่งขึ้น 8.7% หลังยอดขายแบรนด์ Gucci ไตรมาสก่อนลดลงน้อยกว่าที่คาด ส่วนหุ้น SAP ปรับขึ้น 2.2% หลังผลประกอบการดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมิน แม้บริษัทจะคาดว่ารายได้จากธุรกิจคลาวด์ทั้งปีจะอยู่ในระดับล่างของกรอบคาดการณ์

ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและนันทนาการลดลง 2.2% จากแนวโน้มธุรกิจที่ซบเซาของ Sodexo และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของ Evolution ซึ่งต่างร่วงลงราว 7%

หุ้น STMicroelectronics ถูกระงับการซื้อขายหลายครั้งระหว่างวัน ก่อนปิดร่วง 14.1% หลังคาดการณ์ยอดขายไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาด เนื่องจากยอดขายในกลุ่มยานยนต์อ่อนแรง ขณะที่หุ้น Dassault Systèmes ร่วง 13% หลังบริษัทซอฟต์แวร์ของฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปี

ส่วนตลาดหุ้นสวิตเซอร์แลนด์อ่อนตัว 0.4% จากแรงกดดันของหุ้น Roche ที่ร่วงลง 3.2% หลังยอดขายยารักษาโรคตาและฮีโมฟีเลียชนิดใหม่ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด

Back to top button