
“กัณฑรา” มอง SET ไซด์เวย์อัพ! รับแรงซื้อฝรั่ง-ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย หนุนหุ้นบริโภค-ไฟแนนซ์
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา ชี้ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในขาขึ้นแบบไซด์เวย์อัพ หลังยืนเหนือ 1,300 จุด พร้อมคาดเฟดลดดอกเบี้ย โดยช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริโภค ไฟแนนซ์ และพลังงาน
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ว่าตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวส่งท้ายสัปดาห์ต่อเนื่อง หลังดัชนี SET สามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันตลาดในสัปดาห์นี้ โดยเข้าซื้อสุทธิกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งในตลาดสปอตและฟิวเจอร์ สะท้อนการกลับเข้ามาลงทุนจริง ไม่ใช่การทำบิ๊กล็อตหรือเก็งกำไรระยะสั้น
นายกัณฑรา ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5-6 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกและเพียงพอที่จะผลักดันดัชนีให้ “ไปต่อ” ได้ โดยมองแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,315 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,295- 1,285 จุด
สำหรับปัจจัยหนุนระยะสั้น นายกัณฑรา ระบุว่า ตลาดกำลังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลางสัปดาห์หน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย โดยมองว่า “โอกาสในการลดดอกเบี้ยมีสูง” ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย เพราะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและเพิ่มสภาพคล่องให้หมุนเวียนกลับเข้าสู่ตลาดทุนได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการพบปะหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า และช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม สร้างบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายและเป็นบวกต่อทิศทางตลาดทุนในภูมิภาค
นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศยังมีส่วนสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่ง” และแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายภายในประเทศ พร้อมกันนี้ยังมีโอกาสเกิด “Election Rally” ในช่วงก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป ซึ่งมักเป็นจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังต่อการใช้จ่ายภาครัฐและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้นในระหว่างการหาเสียง
นายกัณฑรา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นควรเน้นหุ้นในธีม “Domestic Consumption” และหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง โดยแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX
ปิดท้าย นายกัณฑรา ย้ำว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแบบ “ไซด์เวย์อัพ” จึงควรใช้จังหวะที่ตลาดอ่อนตัวเพื่อทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มบริโภคภายในประเทศและหุ้นปันผลสูง ซึ่งมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่มั่นคงต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

