ADVANC กวาดกำไร Q3 โต 37% แตะ 1.2 หมื่นลบ. รับยอดอาปู้-เน็ตหนุน โบรกเชียร์เป้า 334 บ.

ADVANC รายงานกำไรสุทธิ Q3/68 แตะ 12,038 ล้านบาท โต 37% จากปีก่อน รายได้บริการมือถือและบรอดแบนด์เติบโตเด่น ต้นทุนควบคุมดี บล.หยวนต้า คาดไตรมาส 4/68 แนวโน้มดีต่อ คงคำแนะนำ “ซื้อ” เคาะราคาเป้าหมาย 334 บาทต่อหุ้น


บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 36/2568 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 พบว่า มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ดังนี้

บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ  12,038.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.99% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8,788.13 ล้านบาท โดยเป็นยอดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 เอไอเอสมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น 46.3 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นสุทธิ 271,300 เลขหมาย เป็นผลจากระบบเติมเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 124,500 เลขหมาย และระบบรายเดือนเพิ่มขึ้นสุทธิ 146,800 เลขหมาย แม้ว่าลูกค้าใหม่จะได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดในการยืนยันตัวตนด้วยระบบ Liveness แต่เอไอเอสยังสามารถเติบโตด้านผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิได้จากการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้ามีคุณภาพ และการบริหารจัดการลูกค้ายกเลิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่ ARPU เฉลี่ยบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตขึ้นร้อยละ 5.2 เทียบกับปีก่อน และเติบโตร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการปรับตัวดีขึ้นของ ARPU บริการเติมเงินจากกลยุทธ์มุ่งเน้นคุณค่าและการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนลูกค้ามีคุณภาพสูง ในขณะที่ ARPU บริการรายเดือนอ่อนตัวจากรายได้โรมมิ่งนักท่องเที่ยวขาออกจากปัจจัยฤดูกาล

สำหรับปริมาณการใช้งานเฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (VOU) เติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน เป็นผลจากกลยุทธ์เพิ่มจำนวนผู้ใช้ 5G และพฤติกรรมการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จำนวนผู้ใช้บริการ 5G ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้นเป็น 15.8 ล้านเลขหมาย คิดเป็นร้อยละ 34 ของฐานผู้ใช้บริการทั้งหมด เพิ่มขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 เอไอเอสมีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรวม 5.2 ล้านราย เติบโตขึ้น 68,000 รายจากไตรมาสก่อน โดยการเติบโตที่ยังแข็งแกร่งมาจากการขยายฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ และการได้รับประโยชน์จากการนำเสนอบริการเสริมพรีเมียร์ลีก ซึ่งช่วยยกระดับการให้บริการคอนเทนต์และส่งผลต่อการรักษาฐานผู้ใช้งาน

ในขณะที่ ARPU บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพิ่มขึ้นเป็น 528 บาท เติบโตขึ้นร้อยละ 4.6 จากปีก่อน และเติบโตร้อยละ 1.8 จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากกลยุทธ์มุ่งเน้นแพ็กเกจมูลค่าสูง และการขายบริการเสริมสร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ บริการคอนเทนต์และบริการที่มากกว่าการเชื่อมต่อ

ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 33,604.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.17% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 25,816.45 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 128,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

รายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของ ARPU ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของกลุ่มลูกค้ามีคุณภาพ การส่งเสริมการขายแพ็กเกจ 5G และบริการเสริมคอนเทนต์

รายได้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายฐานลูกค้าและ ARPU ที่สูงขึ้นจากการขายแพ็กเกจมูลค่าสูง

รายได้บริการลูกค้าองค์กรและอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากความต้องการที่แข็งแกร่งของบริการด้านการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะบริการเชื่อมต่อโครงข่าย (EDS) และบริการคลาวด์

รายได้จากการขายอุปกรณ์และซิม เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปีก่อน เติบโตสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านค้าปลีก อาทิ การขยายเวลาให้บริการ การพัฒนาทักษะพนักงานขาย การปรับปรุงหน้าร้าน และความต้องการสมาร์ทโฟนที่ยังมีอย่างต่อเนื่องจากรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์

ต้นทุนการให้บริการ ลดลงร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยหลักมาจากค่าตัดจำหน่ายและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ลดลงร้อยละ 4.6 เป็นผลจากสัญญาเชื่อมต่อโครงข่ายคลื่นความถี่ 2100MHz กับ NT หมดอายุในเดือนสิงหาคม 2568 และการตัดค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์โครงข่ายครบจำนวน

ค่าใช้จ่ายโครงข่าย ลดลงร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากค่าใช้จ่ายการเป็นพันธมิตรกับ NT และต้นทุนค่าไฟที่ลดลง

ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร ลดลงร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ในรอบ 9 เดือนของปี 2567 ชดเชยกับค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้

รายได้อื่น ในรอบ 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 1,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายรับดอกเบี้ย กำไรจากการขายอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF ที่สูงขึ้น

ขณะที่กำไร EBITDA ในรอบ 9 เดือนของปี 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายตัวของธุรกิจร่วมกับการบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ ขณะที่ กำไรสุทธิ อยู่ที่ 33,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ต้นทุนคลื่นความถี่และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ADVANC รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 มีกำไรสุทธิ 12,038 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรปกติอยู่ที่ 11,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิสูงกว่าที่บริษัทคาดไว้ที่ 11,400 ล้านบาท ประมาณ 5% และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 11,300 ล้านบาท

โดยรายได้และฐานลูกค้า ซึ่งมาจากรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 33,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 6.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ส่วนลูกค้าระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 125,000 เลขหมาย และลูกค้าระบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 147,000 เลขหมาย

ARPU ระบบเติมเงินเติบโตต่อเนื่อง 1.4% จากไตรมาสก่อน และ 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดในรอบ 5 ไตรมาส และรายได้ Fixed Broadband อยู่ที่ 8,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากไตรมาสก่อน และ 10.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้น 68,000 ราย ARPU เพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อน และ 4.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส

ต้นทุนและค่าใช้จ่ายNetwork OPEX ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่าย (D&A) ลดลง 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน เนื่องจากค่าคลื่นความถี่ที่ลดลงจากการประมูลรอบล่าสุด และการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มข้น SG&A ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน และ 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากมาตรการควบคุมต้นทุน และดอกเบี้ยจ่ายลดลง 2% จากไตรมาสก่อน และ 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากการออกหุ้นกู้ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/2568 บริษัทประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/2568 ต่อเนื่องในทิศทางดี การแข่งขันยังอยู่ในระดับต่ำ กำลังซื้อฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล และเป็นไตรมาสแรกที่ได้รับประโยชน์เต็มจากค่าคลื่นความถี่ที่ลดลง

บริษัทคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยอิงราคาเหมาะสมที่ 334 บาทต่อหุ้น พร้อมแนะนำเก็งกำไรหุ้น TRUE ตามทิศทางเดียวกัน โดยคาดว่าผลประกอบการจะเติบโต เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบุว่า กำไรปกติของ ADVANC ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ โดยมีส่วนต่างเพียง 4% จากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ต่ำกว่าประมาณการ โดยกำไรปกติ 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรทั้งปี สะท้อนโอกาสอัพไซด์ต่อประมาณการกำไร ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจัดประชุมนักวิเคราะห์ภายหลังประกาศงบในวันที่ 5 พ.ย.นี้

สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 รายได้ปกติและ EBITDA เติบโต 6.7% และ 8.5% ตามลำดับ โดยฝ่ายบริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตทั้งปี 2568 ที่ 4–6% พร้อมระบุว่ามีมุมมองระมัดระวังต่อช่วงเวลาที่เหลือของปี

พร้อมยังคงคำแนะนำ “Outperform” สำหรับ ADVANC ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 331.32 บาท อิงอัตราคิดลด WACC ที่ 9.2% และอัตราการเติบโตระยะยาว 3% มองว่าผลงานบริษัทมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มสื่อสาร

Back to top button