
KBANK มองกรอบ “เงินบาท” สัปดาห์หน้า 32.10-32.80 บ. จับตาทิศทางฟันด์โฟลว์-ราคาทอง
KBANK มองกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (10-14 พ.ย.68) ที่ 32.10-32.80 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.ที่ 32.32 บาท/ดอลลาร์ แนะติดตามฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มองกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (10-14 พ.ย.68) ที่ 32.10-32.80 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.ที่ 32.32 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค
ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ เนื่องจากตลาดทยอยปรับลดโอกาสความเป็นไปได้ (Probability) ของการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธ.ค. ลง ประกอบกับมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือนต.ค. ที่ออกมาดีกว่าที่คาด
อย่างไรก็ดี แรงหนุนเงินดอลลาร์ชะลอลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ เนื่องจากภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานของสหรัฐฯ ประกอบกับมีความไม่แน่นอนในประเด็นความชอบด้วยกฎหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก (ศาลฎีกาสหรัฐฯ ยังไม่ประกาศคำตัดสินและกระบวนการพิจารณาอาจต้องดำเนินต่อไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้า) ขณะที่ เงินบาทพลิกแข็งค่ากลับมาตามแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ และการปรับตัวกลับมายืนเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของราคาทองคำในตลาดโลก
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 3-7 พ.ย. 68 นั้น แม้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,265 ล้านบาท แต่มีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทยถึง 8,227 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 8,232 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 5 ล้านบาท)
สำหรับในสัปดาห์หน้าปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย สถานการณ์การชัตดาวน์ของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของยูโรโซน และเครื่องชี้เศรษฐกิจจีนเดือนต.ค. (อาทิ ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก) ด้วยเช่นกัน

