“ดาโอ” ชู OR ธุรกิจ Mobility-Lifestyle หนุนกำไรปี 68 โต 41% แนะ “ซื้อ” เป้า 16 บาท

บล.ดาโอ ประเมินแนวโน้มธุรกิจของ OR ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจ Mobility และ Lifestyle ที่เติบโตแข็งแกร่ง หนุนกำไรทั้งปี 68 เพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อน สะท้อนโมเมนตัมเชิงบวกของอุปสงค์พลังงานในประเทศ และการบริหารพอร์ตธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมคงคำแนะนำ “ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 16 บาท


บริษัท ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 2,600 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 1,600 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสก่อนหน้า โดยผลประกอบการดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดและนักวิเคราะห์คาดการณ์

ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ได้รับแรงหนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ Mobility ที่มี EBITDA อยู่ที่ 2,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 865 จากปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากไตรมาสก่อน สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร (GP/Litre) ที่ปรับตัวดีขึ้น สามารถชดเชยปริมาณขายน้ำมันในประเทศที่ชะลอตัวได้

สำหรับธุรกิจ Lifestyle รายงาน EBITDA ที่ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 จากปีก่อน แม้ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 2 จากไตรมาสก่อน โดยได้รับผลดีจากการปรับพอร์ตธุรกิจ ออกจากกิจการที่ไม่สร้างผลกำไร เช่น Texas Chicken และ Otteri ซึ่งช่วยให้ฐานกำไรโดยรวมมีความยั่งยืนมากขึ้น

ขณะที่ธุรกิจ Global มีกำไร EBITDA อยู่ที่ 263 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 33 จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากไตรมาสก่อน โดยการลดลงเมื่อเทียบรายปีส่วนหนึ่งมาจากความต้องการใช้น้ำมันในกัมพูชาที่ชะลอตัว

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 โออาร์มีกำไรสะสมคิดเป็นร้อยละ 87 ของประมาณการกำไรทั้งปี ฝ่ายวิจัยยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 ที่ระดับ 10,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 จากปีก่อน โดยคาดว่าปริมาณการขายจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568 ช่วยชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นที่อาจอ่อนตัวลงเล็กน้อย

นักวิเคราะห์ยังคงให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น OR ที่ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท อ้างอิงค่า PER ปี 2569 ที่ระดับ 17.7 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของกลุ่มค้าปลีกประมาณ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (–2.0SD) สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของกำไรในระยะต่อไป

Back to top button