
TNL โชว์ฟอร์มแกร่ง! กำไรไตรมาส 3 โตเท่าตัวแตะ 158 ล้านบาท
TNL โชว์ผลงานไตรมาส 3/68 กำไรโตเท่าตัว แตะ 158 ล้านบาท ดันงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน รับแรงหนุนจากธุรกิจสินเชื่อ–บริหารสินทรัพย์–อสังหาฯ ที่เติบโตแข็งแกร่ง พร้อมตอกย้ำธรรมาภิบาลระดับ 5 ดาว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ และบีทีเอส กรุ๊ปฯ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 บริษัทมีรายได้รวม 333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 158 ล้านบาท เติบโตกว่าเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากจากการเติบโตของธุรกิจหลักและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันยังคงเป็นรายได้หลักคิดเป็น 47% ของรายได้รวมทั้งหมด
“บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์การเติบโตอย่างรอบคอบ ควบคู่กับการรักษาวินัยทางการเงิน และเสริมความมั่นคงด้านสภาพคล่องผ่านการออกหุ้นกู้ครั้งที่ 3 มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการดำเนินงานของ TNL และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต” นายกิตติชัยกล่าว
นายกิตติชัยกล่าวต่อว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 พอร์ตสินเชื่อรวมของธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน (OXA) อยู่ที่ 6,040 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี มียอดชำระคืนเงินกู้กว่า 1,400 ล้านบาท และปล่อยสินเชื่อใหม่รวมเกือบ 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรา LTV โดยรวมลดลงเหลือ 46.9% สะท้อนคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถแก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพได้สำเร็จรวมมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (OAM) ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 OAM ได้เข้าซื้อพอร์ต Corporate NPL รวมมูลค่า 809 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดหนี้ตามกฎหมายรวมเพิ่มเป็น 5,161 ล้านบาท โดยมูลค่าการซื้อสะสมในรอบ 9 เดือนอยู่ที่ 1,163 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (TNLA) มีรายได้จากค่าที่ปรึกษาและดอกเบี้ยเงินให้กู้แก่บริษัทร่วมค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจากการร่วมค้าลดลง ตามความคืบหน้าของโครงการ Noble Create ที่เริ่มทยอยโอน และโครงการ Nue Riverest Ratburana ซึ่งจะเริ่มโอนในช่วงปลายปีนี้
นายกิตติชัย กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2568 นี้ จะยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากการขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกัน การเติบโตของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของรายได้และกำไรของบริษัทฯ พร้อมรักษาวินัยทางการเงินเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
“นอกจากนี้ TNL ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและโปร่งใส โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาว (“ดีเลิศ”) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่สนับสนุนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นการสะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่ดี มีธรรมาภิบาล โปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน” นายกิตติชัยกล่าว

