PTG ยอดขายกาแฟพันธุ์ไทยพุ่ง-ออยล์ฟื้น ดันกำไร Q3 โตเฉียด 2 เท่าตัว ทะลุ 205 ล้านบาท

บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 และงวด 9 เดือนแรกของปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 พบไตรมาส 3/2568 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น และงวด 9 เดือนของปีมีกำไรลดลง ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 53,706 ล้านบาท ลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ กำไรไตรมาส 3/2568 เติบโตจากปีก่อนหน้าเป็นผลมาจากการขยายตัวของกำไรขั้นต้นและสัดส่วนรายได้ Non-Oil ที่สูงขึ้น รวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตรในธุรกิจ Oil และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงต้นทุนการขายและการให้บริการลดลง

อย่างไรก็ดี ธุรกิจ Non-Oil ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 41.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 163.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเป็น 1,885 สาขา เติบโตในระดับ 40-50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ไทยที่สามารถเติบโตได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ขณะเดียวกันต้นทุนการขายและการให้บริการจำนวน 49,280 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มี กำไรขั้นต้น (Gross Profit) จำนวน 4,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนหลักจากรายได้ธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยตามที่กล่าวข้างต้น

ทั้งนี้ ธุรกิจ Non-Oil มีกำไรขั้นต้นเติบโต 88.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนกำไรขั้นต้นของธุรกิจ Non-Oil ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 39.3% เพิ่มขึ้นจาก 26.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ธุรกิจ Oil มีการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตรจากไตรมาสก่อนหน้า ตามทิศทางราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นและการบริหารกองทุนน้ำมันที่เหมาะสม โดยรวม ธุรกิจ Oil ยังคงเป็นแหล่งกำไรขั้นต้นหลัก คิดเป็น 60.7% ของกำไรขั้นต้นรวม

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 68 มีกำไรสุทธิ 707.15 ล้านบาท ลดลง 10.87% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 793.41 ล้านบาท